ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน เงินปอนด์ ยูโร และฟรังซ์สวิส หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อกระตุ้นศก. นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากยอดขาดดุลการค้าปี 2550 ของสหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนัก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.4633 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.4576 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.9691 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 1.9649 ดอลลาร์ต่อปอนด์
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังอ่อนตัวลงแตะระดับ 107.93 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 108.20 เยนต่อดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0973 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.1079 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 99.99 เซนต์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 99.76 เซนต์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ
เบอร์นันเก้ได้แถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มซบเซาลงจนถึงช่วงปลายปีนี้ และกล่าวว่าเฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นต่อไปได้ ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ตีความว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
ทั้งนี้ การลดอัตราดอกเบี้ยแม้เป็นหนึ่งในแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงและไม่น่าดึงดูดใจ
นายอาร์ชาฟ ไลดี นักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราจากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ในสหรัฐกล่าวว่า "ค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันอยู่ก่อนแล้วจากข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นลบของสหรัฐ และเมื่อแถลงการณ์ของเบอร์นันเก้สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มจะชะลอตัวลงอีก ก็ยิ่งทำให้ดอลลาร์ได้รับผลกระทบหนักขึ้น"
นอกจากนี้ นักลงทุนเทขายดอลลาร์เมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนธ.ค.ลดลง 6.9% แตะระดับ 5.88 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี และยอดขาดดุลการค้าของปี 2550 ลดลง 6.2% แตะระดับ 7.116 แสนล้านดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--