สหรัฐเผยยอดขาดดุลการค้าปี 50 ลดลง 6.2% เหตุยอดส่งออกพุ่ง-ดอลล์อ่อน

ข่าวต่างประเทศ Friday February 15, 2008 09:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในปี 2550 ปรับตัวลดลง หลังจากที่ได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดต่อเนื่องกัน 5 ปี เนื่องจากยอดส่งออกแข็งแกร่งขึ้นและค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าปรับตัวลดลงแตะระดับ 7.116 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2550 ลดลง 6.2% จากระดับในปีก่อนหน้านี้ที่ 7.585 แสนล้านดอลลาร์
ยอดส่งออกสินค้าและบริการของสหรัฐแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.62 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2550 และเพิ่มขึ้น 112.7% จากสถิติในปี 2549 ขณะที่ยอดนำเข้าสินค้าและบริการ เพิ่มขึ้น 5.9% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.33 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ยอดนำเข้าที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ที่เป็นผลมาจากยอดนำเข้าน้ำมันที่พุ่งขึ้น 9.5% ซึ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.31 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยรายปีเพิ่มขึ้นแตะระดับ 64.27 ดอลลาร์
ยอดขาดดุลสินค้าและบริการแตะระดับ 7.116 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วน 5.1% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และลดลงจากระดับ 5.7% ในปี 2549
ขณะที่ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐปรับตัวลดลงแตะระดับ 5.88 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.ปี 2550 ลดลง 6.9% จากระดับในเดือนพ.ย. ส่วนยอดส่งออกสินค้าและบริการในเดือนธ.ค.อยู่ที่ระดับ 1.443 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าสินค้าและบริการมีมูลค่าทั้งสิ้น 2.031 แสนล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องกัน 5 ปี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าจะลดลงในปีที่แล้ว เนื่องจากบรรดาผู้ส่งออกของสหรัฐได้รับประโยชน์จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และเศรษฐกิจในหลายๆประเทศที่ขยายตัวขึ้น
ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงได้ช่วยให้ยอดส่งออกของสหรัฐแข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากสินค้าและการบริการของสหรัฐมีราคาถูกลง และความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ