ตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคเอเชียพากันดิ่งร่วงลงในเช้าวันนี้ ตามทิศทางการเทขายหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มซบเซาลงอีก พร้อมทั้งชี้ว่าภาคธุรกิจจะประสบภาวะขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจปล่อยกู้จำนอง
โดยในช่วงเช้านี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเคลื่อนไหวทรุดตัวลง 1.5% ซึ่งนำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วงลง 1.4%
โยชิฮิโกะ ชิมามินิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยได-อิชิ ไลฟ์กล่าวว่า "ถ้อยแถลงของเบอร์นันเก้ที่ทำให้เราตระหนักว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงซบเซา หลังจากที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยยอดค้าปลีกของสหรัฐและตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นที่แข็งแกร่งเกินคาด"
ส่วนดัชนีคคอมโพสิต ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลดลง 0.9% และดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นมาเลเซียดำดิ่งลง 1.1% ขณะที่ดัชนีสเตรทไทม์ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ทรุดตัวลง 1.3%
นอกจากนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีนยังร่วงลง 1.2% โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลว่า รัฐบาลอาจใช้มาตรการคุมเข้มทางการเงินหลังจากที่ธนาคารพาณิชย์จีนหลายแห่งรายงานตัวเลขเงินกู้ที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนม.ค.
ธนาคารกลางจีนเปิดเผยยอดเงินกู้เมื่อวานนี้ซึ่งระบุว่า ยอดเงินกู้งวดใหม่ในเดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 8.036 แสนล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.373 แสนล้านหยวนจากช่วงเวลาเดียวกันของปีทีผ่านมา
ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงทรุดหนักถึง 2.3% ในช่วงเช้าวันนี้
โทนี่ ถง นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ไชน่า เอเวอร์ไบรท์กล่าวว่า "นักลงทุนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังซบเซา และจะเป็นตัวสกัดปัจจัยบวกที่เข้ามาชี้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง" สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--