คลังเผยม.ค.51ดุลเงินสดขาดดุล3.46หมื่นลบ.,4 เดือนแรกปีงบ 51ขาดดุลเพิ่ม185%

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 15, 2008 11:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในเดือนม.ค.51 ขาดดุลเงินสดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 จำนวน 34,621 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 51(ต.ค.50-ม.ค.51) รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมทั้งสิ้น 150,267 ล้านบาท สูงกว่าการขาดดุลช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึง 185%
ทั้งนี้เป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 121,390 ล้านบาท และการขาดดุลเงินนอกงบประมาณ 28,877 ล้านบาท ซึ่งการขาดดุลเงินสดที่เพิ่มมากขึ้นในช่วง 4 เดือนแรกเป็นผลมาจากการเร่งการใช้จ่ายด้านการลงทุนของรัฐบาลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึง 237.3% และการขาดดุลดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายของการดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลของรัฐบาลที่มีวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต 5% ในปี 51
นายสมชัย กล่าวว่า สำหรับฐานะการคลังนั้น ในเดือนม.ค.51 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 100,715 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 6,320 ล้านบาท หรือ 5.9% เนื่องจากมีการจัดสรรเงินให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและรายได้ที่รัฐวิสาหกิจนำส่งเข้าคลังมียอดต่ำกว่าปีที่แล้ว ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐมีทั้งสิ้น 158,402 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 63.2%
"จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนม.ค.51 ขาดดุล 57,687 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณซึ่งเกินดุล 23,066 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดขาดดุล 34,621 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลด้วยการออกพันธบัตรจำนวน 16,500 ล้านบาท" นายสมชัย ระบุ
ส่วนฐานะการคลังช่วง 4 เดือนแรกปีงบประมาณ 51 นั้น รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 430,286 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 4.5% โดยรายได้จัดเก็บที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่สำคัญ ได้แก่ ภาษียาสูบ ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม ขณะที่รัฐบาลมีการเบิกจ่ายงบประมาณ 551,676 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 38.9%
นายสมชัย กล่าวว่า การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลที่ขยายตัวในอัตราที่สูงถึง 38.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วเนื่องจากการเร่งการเบิกจ่ายฯ ของรัฐบาล ประกอบกับพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 50 มีผลบังคับใช้ล่าช้า
ขณะที่รายได้นำส่งคลังขยายตัว 4.5% ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 121,390 ล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุลจำนวน 28,877 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังสุทธิจำนวน 7,000 ล้านบาท ทำให้ดุลการคลัง(ดุลเงินสด)ของรัฐบาลขาดดุล 150,267 ล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐบาลชดเชยการขาดดุลดังกล่าวโดยการออกพันธบัตร 59,000 ล้านบาท และใช้เงินคงคลัง 91,267 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ