นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการดูแลเสถียรภาพวินัยการเงินการคลังของประเทศว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้หารือในเบื้องต้นแล้วว่ามีความจำเป็น เพราะระบบการเงินของประเทศมีความเชื่อมโยงกันหมด ทั้งตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดตราสารหนี้ และการลงทุนโดยตรง
ดังนั้น การดูแลเสถียรภาพในระดับประเทศจึงต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากที่เคยต่างคนต่างดู ทำให้ไม่เกิดความเชื่อมโยง และไม่มีประสิทธิภาพ เช่น ธปท. กำกับดูแลนโยบายการเงิน, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำกับดูแลตลาดทุน ส่วนกระทรวงการคลัง กำกับดูแลนโยบายการคลัง ซึ่งไม่ได้มีกลไกที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน
นายอุตตม กล่าวว่า สำหรับรูปแบบที่คณะกรรมการกำลังศึกษาอยู่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าใครจะทำหน้าที่เป็นประธาน และจะมีภาคเอกชนเข้ามาร่วมด้วยหรือไม่ นอกเหนือไปจากกระทรวงการคลัง, ธปท., ก.ล.ต. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยรูปแบบดังกล่าวนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น และยุโรปก็มีการจัดตั้งแล้ว แต่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่แต่งตั้งเข้ามาเพื่อแทรกแซงการทำงานของ ธปท. เพราะอำนาจของแต่ละหน่วยงานยังมีเหมือนเดิม
"โจทย์ใหญ่ของคณะกรรมการชุดนี้ คือการดูแลแสถียรภาพการเงินการคลังของประเทศในภาพรวม จะต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ปรึกษากันว่าควรดำเนินการเรื่องต่างๆ อย่างไร และก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ตามอำนาจของตัวเอง ไม่มีการแทรกแซง หรือโน้มน้าวการทำงานของใครที่เกินกว่ากรอบกฎหมาย" นายอุตตม กล่าว
รมว.คลัง ยังกล่าวถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศว่า ขณะนี้ได้มีการหารือกับ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนของการท่องเที่ยว โดยเห็นว่าเป็นมาตรการที่สมควรจะต้องมีต่อไป เพราะการท่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ส่วนการจะแจกเงิน 1,500 บาท เพื่อให้ประชาชนได้ใช้จ่ายในด้านการท่องเที่ยวนั้น ขณะนี้ได้มอบหมายให้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ว่ารูปแบบใดจะดีที่สุดที่จะนำออกมาใช้เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่จะหารือกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว แต่คาดว่าจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจนัดแรกของรัฐบาลนี้จะกำหนดประชุมในวันใด
"แพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องมีมาตรการท่องเที่ยว ส่วนจะให้ลดหย่อนภาษี หรือแจกเงิน 1,500 ก็ยังดูอยู่ ยังไม่รู้ว่าจะเป็นรูปแบบไหน โดยแพ็คเกจที่จะออกมา จะต้องเป็นยาแรง ทำแล้วได้ผลเต็มที่ถึงจะทำ" นายอุตตม กล่าว
สำหรับมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ตอนนี้ได้มอบหมายให้ สศค. และกรมสรรพากรเร่งศึกษาให้เร็วที่สุด ซึ่งตนจะเดินทางไปมอบนโยบายกับกรมสรรพากรในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้ หลังจากนั้นจึงจะทราบว่าจะมีความชัดเจนอย่างไร