นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม เกี่ยวกับการจัดท่าอากาศยานสำหรับการขนส่งสินค้าเกษตร เพื่อรองรับการส่งออกผักและผลไม้ของไทยไปต่างประเทศ โดยจะใช้สนามบินพาณิชย์ทั่วประเทศที่อยู่ใกล้กับแหล่งผลิต และไม่ได้ใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงสนามบินดอนเมืองบางส่วน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ และลดต้นทุนการขนส่ง
"หากสามารถดำเนินการได้สำเร็จจะเป็นการแก้ปัญหาราคาผักผลไม้ตกต่ำ ลดต้นทุนการขนส่ง ทำให้คุณภาพผักและผลไม้สดใหม่ รวมถึงจะสร้างงาน และสร้างเงินเข้าประเทศอีกมหาศาล" นายมิ่งขวัญ กล่าว
ทั้งนี้ จะมีการประสานความร่วมมือกัยหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงคมนาคมจะไปเจรจาให้ บมจ.การบินไทย(THAI) ดำเนินการขนส่งผักและผลไม้เป็นการเฉพาะ หากไม่สำเร็จก็จะหารือกับสายการบินพาณิชย์สัญชาติไทยรายอื่นๆ ให้เข้ามาดำเนินการแทน เช่น สายการบินต้นทุนต่ำ แต่หากยังมีปัญหาอีกก็จะเปิดให้นักธุรกิจไทยที่สนใจเข้ามาดำเนินการแทน
"คาดว่าสายการบินต่างๆ จะให้ความร่วมมือขนส่งสินค้าเกษตร เพราะจะมีงานให้ทำอย่างต่อเนื่อง และน่าจะคุ้มค่ามากกว่าการขนคน โดยเฉพาะสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์จะเหมาตลาดส่งออกรองรับล่วงหน้า ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเชิงรุก ไม่ปล่อยให้สินค้าราคาตกต่ำก่อน" นายมิ่งขวัญ กล่าว
เบื้องต้นจะมุ่งส่งออกไปยังประเทศในเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น และประเทศเพื่อนบ้าน เพราะระยะทางใกล้ ใช้เวลาไม่นาน หลังจากนั้นจะขยายไปยังประเทศในภูมิภาคอื่นๆ ที่ต้องการผักและผลไม้ไทยต่อไป
ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีสนามบินภายในประเทศทั้งสิ้น 36 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะแหล่งที่เพาะปลูกสินค้าเกษตรสำคัญ ทั้งผักและผลไม้ โดยสามารถปรับปรุงสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นคาร์โก้แอร์พอร์ต เพื่อส่งออกผลไม้จากภาคตะวันออกได้ทันที หรือใช้สนามบิน จ.เพชรบูรณ์ เป็นสนามบินที่ส่งออกผักสด เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--