นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"สนทนาประสาสมัคร" ว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทราบปัญหาจากประชาชนหลายเรื่อง โดยสิ่งที่ได้รับฟังบ่อยครั้งคือเรื่องราคาสินค้าแพงขึ้น ไม่ใช่เฉพาะเนื้อหมูที่จะต้องขึ้นตามความเหมาะสมของต้นทุนจริง แต่สินค้าทุกชนิดก็ต้องพิจารณาตามหลักเดียวกัน
พร้อมกล่าวชมนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เร่งดำเนินการในเรื่องนี้ แม้จะไม่มีการมอบนโยบายเป็นเรื่องเฉพาะ
ทั้งนี้ นโยบายกำหนดราคาสินค้าในประเทศต้องดูตั้งแต่ต้นทาง ว่า ต้นทุนจริงในการผลิตสินค้าแต่ละชนิด มีการปรับเพิ่มเท่าใด โดยฝ่ายที่รับผิดชอบต้องเดินหน้าตรวจสอบ เพื่อป้องกันการแอบอ้างเอาเปรียบประชาชน พร้อมมอบนโยบายแก้เศรษฐกิจด้วยเศษสตางค์ คำนวณราคาสินค้าและต้นทุนว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ รวมทั้งได้ยกตัวอย่างในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าของอเมริกาที่ทำเป็นระบบ หากประเทศไทยทำได้โดยหันมาเก็บเศษสตางค์ และไม่เปิดเผยการประกาศขึ้นเงินเดือน เชื่อว่าทำให้ประชาชนไม่เดือดร้อนและทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรมที่เท่าเทียมกัน
"วิธีแก้เศรษฐกิจด้วยเศษสตางค์ นี่คือเศษสตางค์อเมริกัน คนอเมริกันมหาเศรษฐีของโลกเศรษฐกิจใหญ่โตมโหฬาร มีแบงก์ 100 แบงก์ 50 มีแบงก์ 20มีแบงก์ 10 มีแบงก์ 5 มีแบงก์ 1 เหรียญ เชื่อไหมครับ 1 เหรียญที่เป็นธนบัตรนี่ ใช้กันทั่วไปหมดธนบัตรก็ใช้นะครับ เสร็จเรียบร้อยแล้วต้องมีที่เก็บเศษสตางค์ คนอเมริกันจะพกธนบัตรเกินใบละ 20 ใบละ 50 ก็ไม่พก ใบละ 10 ก็ไม่พกแล้ว ธุรกิจอะไรต่างๆ พวกมาเฟียอะไรใช้ธนบัตรใบใหญ่กันชาวบ้านธรรดาจะใช้ธนบัตรไม่เกินใบละ 20 เขาทำของเขาอย่างนี้นะครับ 40 ปีก่อนเป็นอย่างไรเดี๋ยวนี้ไปอเมริกาเดี๋ยวนี้ก็เป็นอย่างนั้น 40 ปีก่อนซื้อ 97 ทอน 3 ซื้อ 98 ทอน 2 และเราเห็นอะไรในอเมริกามาแต่ก่อนนี้ แต่ก่อนนี้เวลาซื้อไก่หนึ่งแพ็คราคา 1 เหรียญ 1 เหรียญคือ 100 เซ็น นะครับ จะเป็นน่องเป็นขาเป็นอะไรหนึ่งแพ็ค 1 เหรียญ วันหนึ่งไก่แพงเขาขายอย่างไรครับ 101 ขึ้น 1 เซ็น ครับ แปลว่าขึ้น 1% 100 เซ็นเป็นหนึ่งเหรียญนี่ ไก่หนึ่งแพ็คขึ้น 101 เขาไม่ใช้10.00เขาใช้ 101 เซ็น ขึ้น 1% ยังแพงอีก 102 103 104 เมื่อไหร่ไก่ขึ้น 105 ชาวบ้านจะรู้สึกแล้วว่าสินค้าแพงแล้ว"
รัฐบาลไทยจะขึ้นเงินเดือนให้ใครต่อใคร ต้องประกาศเลยรัฐบาลลงมติแล้ว มติ ครม.ออกมาวันนี้ ออกมติ ครม.แล้วตกลงตัดสินใจว่าให้ขึ้นเงินเดือนข่าวนี้ออกมาวันอังคาร วันพุธ ก็สินค้าขึ้นแล้วขึ้นกันตามใจชอบ พอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไปอีกสัก 2-3 เดือนใกล้จะเดือนตุลาตกลงได้ตัวเลขแล้วออกมาแล้วว่าสถิติออกมาคนนั้นได้เท่านี้ ๆ สถิติออกมาขั้นต่ำได้เท่านี้ ขั้นกลางได้เท่านี้ ขั้นสูงได้เท่านี้ แสดงตัวเลขออกมาพอเห็นตัวเลขราคาว่าใครได้เท่าไหร่จะขึ้น 5% 8% 4% รุ่งขึ้นสินค้าออกฉับฉับฉับขึ้นอีกแล้วสื่อก็บอกว่าจำเป็นต้องเสนอข่าว บอกจะขึ้นก็ต้องเสนอข่าว ขึ้นเท่าไหร่ก็เสนอข่าว พอวันที่ 31 ตุลาคม เอาอีกแล้วครับ รับเงินเดือนเดือนแรกวันนี้ข้าราชการรับเงินเดือนเดือนแรก เงินเดือนเดือนใหม่ราคาเท่านี้ ขึ้นอีกแล้วครับสินค้า บอกข่าวเงินเดือนจะขึ้น ราคาสินค้าขึ้น ขึ้นเท่าไหร่สินค้าขึ้น วันนี้ขึ้นแล้วสินค้าขึ้น 3 หนทำไมครับ โทษใครอย่างนี้ ที่อเมริกาเป็นอย่างไรครับ ไก่ขึ้นไป 105 แปลว่าสินค้าอาหารขึ้น 5% แล้ว
ขึ้น 5% แล้วเป็นไง ขึ้น 5% เขาเรียกว่าแพเช็ค เงินเดือนนะครับ ธรรมเนียมของอเมริกามีมาจนบัดนี้และยังไม่เลิกด้วยและคนอเมริกาก็ถือธรรมเนียมว่าเงินเดือนไม่ให้ใครรู้ เงินเดือนได้เท่าไหร่ไม่ให้ใครรู้ ถือเป็นความลับส่วนบุคคล ใครไปถามถือว่าเสียมารยาทอย่างยิ่งจนถึงวันนี้เงินเดือนใครก็เงินเดือนมันพอเขาปรับเงินเดือนเรารับแพร์เช็คเออได้เงินเดือนขึ้นเงินเดือนขึ้น 5% 8% เขาขึ้นทันทีเขาปรับทันทีครับ เขาทำกันเงียบๆ อย่างไรไม่รู้ ไม่มีข่าวในหนังสือพิมพ์ว่าเงินเดือนขึ้น สินค้าขึ้นราคาถ้าเล็กน้อยเขาก็ไม่บ่นถึงนี้คือระบบของเขานะครับ
วันนี้คนไทยรายได้ประจำวันต่ำสุดผมให้ 200 บาท เงินเดือนได้ต่ำสุดวันละ 200 คนอเมริกันรายได้ต่ำสุดเท่าไหร่ 1600 บาท 8 เท่าครับ คนที่ได้เงินเดือนต่ำสุดในอเมริกา คือค่าแรงกรรมกรถูกสุด คนไทยได้ 200
วันนี้เข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต เข้าไปในตลาด เรียกซุปเปอร์มาร์เก็ต เพราะไข่ใส่เป็นโหล เป็นแพ็ค ไข่ไก่ 1 โหลในประเทศไทย ราคาโหลละ 30 บาท ลูกละ 10 สตางค์ เข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ชิคาโกวันนี้ โทรศัพท์ถามเท่าไหร่ 31 บาท คิดเป็นเงินไทยแล้ว 31 บาท เงินเดือนวันละ 1600 ไข่ไก่โหลละ 31 เงินเดือนวันละ 200 ไข่ไก่โหลละ 30 ทำได้ยังไง เขาทำได้แล้ว เพราะเขามีระบบ มีวิธีการ เพราะเขาเก็บเศษสตางค์ของเขาไว้ เพราะต้องทอนเสมอ คนอเมริกันมีความคิดไหมครับ เขาคิดรักษาราคาสินค้าด้วยการเก็บเศษสตางค์เอาไว้"นายสมัคร กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี โทร.0-2253-5050 ต่อ 322 อีเมล์: nisarat@infoquest.co.th--