นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กำชับให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และนำผลการประเมินมาปรับปรุงการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน
ที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่เคยมีฐานข้อมูลผู้มีรายได้ จนเมื่อมีการลงทะเบียนผู้ต้องการมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จึงเริ่มมี Big data ของผู้มีรายได้น้อย ซึ่งนายกฯ ย้ำว่า Big data ผู้มีรายได้น้อยนี้ จะต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นอีกต่อไป และต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลผู้มีรายได้น้อยอย่างถี่ถ้วน เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาความยากจนให้ครบทั้ง 4 มิติ คือ ช่วยให้เข้าถึงสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐาน, พัฒนาทักษะทางอาชีพและการศึกษา, ช่วยหางานให้ทำ และช่วยแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ
ปีที่ผ่านมา ผู้มีรายได้น้อยเข้ารับการพัฒนาอาชีพจำนวน 3.2 ล้านคน ช่วยให้คนพ้นเส้นความยากจนที่ระดับ 30,000 บาทต่อปี ได้ถึง 1 ล้านคน โดยคนกลุ่มนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1,713 บาทต่อเดือน ทั้งปีมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 20,000 บาท และช่วยให้คนพ้นเพดานรายได้ที่ 100,000 บาท ได้ 1 แสนคน โดยคนกลุ่มนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3,861 บาทต่อเดือน ทั้งปีมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 46,000 บาท
นางนฤมล กล่าวว่า นายกฯ ขอฝากไปยังผู้มีรายได้น้อยว่ารัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนในทั้ง 4 มิติ เพียงแต่ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือในการพัฒนาทุกมิติ และฝากเชิญชวนภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐในการพัฒนาทักษะอาชีพ พร้อมทั้งจ้างงานผู้มีรายได้น้อย จึงจะทำให้เกิดการหลอมรวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียวของคนไทย ที่จะร่วมกันแก้ปัญหาหาความยากจนอย่างยั่งยืน