นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการ ครม.เศรษฐกิจ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจนัดแรก (ครม.เศรษฐกิจ) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นประธานว่า ที่ประชุมตั้งเป้าผลักดันอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 3% จากช่วงคาดการณ์ 2.7-3.2% ก่อนขยายตัวเพิ่มเป็น 3.5% ในปี 63
ที่ประชุมวันนี้ได้เห็นชอบแนวทางการบริหารเศรษฐกิจในปี 62-63 ซึ่งประกอบด้วยกรอบการทำงานระยะสั้น 7 ด้านและปรับโครงสร้าง 2 ส่วน เพื่อลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวน และปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นลดลง
"ภาวะเศรษฐกิจมีปัญหามากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ ตัวเลขชะลอลงกว่าปีที่ผ่านมา และถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาสงครามการค้า" นายกอบศักดิ์ กล่าว
สำหรับ 7 แนวทางการบริหารเศรษฐกิจ ได้แก่ 1.การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก 2.การช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการ 3.การยกระดับราคาสินค้าเกษตรและรายได้สุทธิของเกษตรกร 4.การขับเคลื่อนการส่งออก 5.การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ 6.การขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว ช่วงครึ่งปีหลังให้ได้ 20 ล้านคน เพื่อให้มียอดปีนี้ 39.8 ล้านคน และเพิ่มเป็น 41.8 ล้านคนในปีหน้า 7.การสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการปรับโครงสร้างภาครัฐเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และการปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตรอุตสาหกรรม และภาคบริการ โดยมีการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อติดตามการดำเนินงานและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สอดคล้องกันเพื่อฝ่าวิกฤตไปให้ได้ ซึ่งจะกลายเป็นภูมิคุ้มกันภายใต้ข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ
"ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนยังมีมาตรการอีกหลายอย่างที่สามารถดำเนินการได้ เช่น การขับเคลื่อนการใช้จ่ายและการลงทุนในประเทศ ขณะที่การส่งออกสินค้าบางชนิดขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ดี" นายกอบศักดิ์ กล่าว
สำหรับการประชุม ครม.เศรษฐกิจครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 30 ส.ค.-2 ก.ย.62 โดยจะพิจารณามาตรการดึงดูดการลงทุน และมาตรการกระตุ้นการส่งออก