นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้เกิดปัญหาขาดแคลนข้าวเหนียวในประเทศอย่างมาก และราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะภาวะภัยแล้งในหลายพื้นที่เพาะปลูกในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ผลผลิตเสียหายแล้วคิดเป็นพื้นที่กว่า 600,000 ไร่ และทำให้ผลผลิตลดลงมาก ประกอบกับ ขณะนี้เป็นช่วงรอยต่อของฤดูกาลที่ผลผลิตข้าวฤดูกาลเก่ากำลังจะเก็บเกี่ยวหมด และข้าวใหม่ยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ขณะเดียวกันชาวนาเก็บข้าวไว้บริโภคเอง เพราะคาดว่าผลผลิตจะลดลง ส่งผลให้ช่วงนี้ข้าวเหนียวขาดแคลนมาก และราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ภัยแล้งที่เกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้ว ทำให้ชาวนาภาคเหนือและอีสานเก็บข้าวไว้กินเอง เพราะคาดว่าผลผลิตข้าวเหนียวจะลดลง ถ้าไม่จำเป็นจะไม่นำออกขาย ส่งผลให้โรงสีและผู้ค้าข้าวหลายรายหาซื้อไม่ได้ และไม่มีข้าวขาย จนต้องปิดขายข้าวเหนียวชั่วคราว หรือแม้บางรายจะหาซื้อได้ ก็ต้องจำกัดโควตาการซื้อ เพื่อปันส่วนของสินค้าให้เพียงพอและกระจายอย่างทั่วถึง" นายวิชัย กล่าว
ส่วนราคานั้นขยับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือน ธ.ค.61 จนถึงปัจจุบัน โดยราคาข้าวเปลือกเหนียว ปี 61 เฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 9,549 บาท และทยอยปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ตันละ 13,900-17,600 บาท ณ วันที่ 16 ส.ค.62 หรือสูงขึ้น 59.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีราคาตันละ 9,000-17,000 บาท ส่วนข้าวสารเหนียว ปี 61 อยู่ที่เฉลี่ยตันละ 19,610 บาท และวันที่ 16 ส.ค.62 ปรับมาเป็นตันละ 38,500-38,600 บาท หรือสูงขึ้น 98.20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีราคาตันละ 19,400-19,500 บาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือน ต.ค.-พ.ย.62 ผลผลิตข้าวนาปีฤดูกาลใหม่ปี 62/63 จะเริ่มออกสู่ตลาด ราคาข้าวเหนียวน่าจะปรับตัวลดลงได้ ซึ่งน่าจะทำให้ปริมาณผลผลิตที่ขาดแคลนจะค่อยๆ คลี่คลายลง และน่าจะทำให้ราคาปรับลดลงได้ตามปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยในฤดูการเพาะปลูกปี 62/63 มีพื้นที่เป้ามายปลูกข้าวเหนียว 16.172 ล้านไร่ คาดการณ์ปริมาณผลผลิตอยู่ที่ 6.142 ล้านตัน
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค กรมการค้าภายในได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดการเก็งกำไร และค้ากำไรเกินควร รวมทั้งจะกำกับดูแลไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้า และตั้งราคาสูงโดยไม่สอดคล้องกับต้นทุน โดยขอความร่วมมือโรงสีให้จำหน่ายสินค้าในราคาสอดคล้องกับต้นทุน ไม่เอาเปรียบผู้ซื้อและผู้บริโภค รวมถึงหากจำเป็นจะดำเนินการตรวจสอบสต็อกสินค้า หากพบการกระทำความผิด เช่น มีการกักตุนสินค้า หรือตั้งราคาสูงเกินสมควร ขอให้แจ้งได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป