นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้ กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอให้พิจารณานโยบายส่งเสริมให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือก ซึ่งหาก กพช.อนุมัติหลักการแล้ว คณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) จะเป็นผู้ดำเนินการจัดทำรายละเอียดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติต่อไป โดยเบื้องต้นการส่งเสริมให้ชุมชนผลิตไฟฟ้าจะมีความหลากหลายตามศักยภาพของพื้นที่และเชื้อเพลิง ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งเชื้อเพลิงประเภทก๊าซชีวภาพ ,ชีวมวล และพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังอาจเสนอให้ปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ.2561-2580 (PDP2018) เพื่อให้มีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้นจากเดิมที่กำหนดสัดส่วน 30% ของพลังงานทั้งหมด และการปรับแผนต้องอยู่บนพื้นฐานราคาค่าไฟฟ้าที่จะต้องถูกลง จากเดิมที่กำหนดไว้เฉลี่ยที่ 3.576 บาท/หน่วย
ส่วนการพิจารณาเรื่องการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในปริมาณไม่เกิน 1.5 ล้านตัน/ปีนั้น การประชุมล่าสุดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อต้นสัปดาห์ได้มอบหมายให้พิจารณาถึงการทำให้ประเทศมีความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติในประเทศ โดยต้องไม่กระทบต่อค่าไฟฟ้า ซึ่งตามหลักการการสร้างความเข้มแข็งในอุตสาหกรรมนั้น ทางบมจ.ปตท. (PTT) ได้รับนโยบายของรัฐบาลและมีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นผู้นำธุรกิจ LNG ในภูมิภาคอาเซียน ส่วน กฟผ.จะต้องไปสรุปว่าจะนำเข้า LNG ภายในปีนี้หรือไม่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวน่าจะได้ข้อยุติภายในสิ้นเดือนส.ค. โดยยืนยันว่าสิ่งใดที่ดำเนินการแล้วอาจจะกระทบต่อค่าไฟฟ้านั้นจะต้องกลับมาทบทวนใหม่ทั้งหมด