น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการประชุมประเมินสถานการณ์ส่งออกไตรมาส 3 ปี 62 ร่วมกับภาคเอกชนว่า กรมฯ ยังคงยืนยันเป้าหมายการเติบโตทั้งปีที่ 3% ไว้เป็นเป้าทำงาน เพราะในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ วันที่ 16 ส.ค.62 ได้ประเมินเศรษฐกิจในภาพรวม รวมถึงการส่งออกด้วย และได้เห็นด้วยกับเป้าหมาย 3% ส่วนปี 63 คาดโต 3.5% จากนั้นวันที่ 20 ส.ค.ได้นำรายงาน ครม. ชุดใหญ่ ซึ่ง ครม. รับทราบตามนั้น
ทั้งนี้ จากการหารือกับภาคเอกชนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ประเมินว่าการส่งออกไตรมาส 3 และ 4 น่าจะปรับตัวดีขึ้น และน่าจะติดลบ 0.92% จากก่อนหน้านี้ที่คาดจะติดลบ 1-2% แต่ถ้ามีการเร่งรัดผลักดันการส่งออกตามแผนที่กระทรวงพาณิชย์มุ่งเจาะตลาดเป็นรายสินค้า รายตลาด และฟื้นฟู การส่งออกในตลาดที่เคยเป็นของไทยได้เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ขยายตัวดีขึ้นกว่าที่ประเมินไว้
น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ อยู่ระหว่างประชุมร่วมกับภาคเอกชนเป็นรายกลุ่มสินค้า เพื่อจัดทำแผนผลักดันการส่งออกเป็นรายสินค้าและรายตลาด ซึ่งจะกำหนดเป็นแผนเร่งด่วนระยะสั้น กลาง และยาว เพื่อเพิ่มยอดการส่งออก โดยแผนจะกำหนดออกมาชัดเจนว่าอะไรที่ต้องทำเลย ปัญหาที่จะต้องปลดล็อก และระยะยาวต้องแก้ปัญหา หรือสร้างโอกาสทางการค้าให้กับไทยอย่างไร เป็นต้น
นอกจากนี้ จะเปิดโอกาสให้สภาธุรกิจของประเทศต่างๆ ที่มีอยู่กว่า 20 แห่ง ทำแผนขยายตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยได้หารือกับสภาธุรกิจไทย-อินเดีย และไทย-ฟิลิปปินส์ไปแล้ว และจะหารือกับประเทศอื่นๆ ต่อไป และน่าจะคำแนะนำหรือมีช่องทางผลักดันสินค้าไทยได้ ขณะเดียวกัน จะทบทวนการจัดกิจกรรมส่งเสริมและผลักดันการส่งออก เช่น การจัดงานแสดงสินค้า ที่จัดปีละ 10 งาน อาจลดลง และเพิ่มกิจกรรมที่สร้างยอดการส่งออกได้เร็วและทันทีมากขึ้น เช่น การเพิ่มคณะผู้แทนการค้า ออกไปเจาะตลาดเป็นรายสินค้า และการจัดเวทีเจรจาจับคู่ธุรกิจ หรืองบโครงการ SMEs Proactive ที่จะปรับเงื่อนไขให้ช่วยเหลือ เป็นรายสินค้าและรายอุตสาหกรรมมากขึ้น