ดอลล์แข็งค่าที่ตลาดออสซี่เช้านี้ จากแรงซื้อเพื่อชดเชยการทำช็อตเซลล์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้าวันนี้ (19 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าส่งแรงซื้อเพื่อชดเชยการทำช็อตเซลล์หลังจากที่เงินดอลลาร์ถูกเทขายอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งสัญญาณถึงปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐ
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1.4646 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากแข็งค่าขึ้นแตะที่ 1.4660 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดลอนดอนคืนวานนี้ ขณะที่เงินปอนด์สเตอริงซื้อขายกันที่ระดับ 1.95 ดอลลาร์ต่อปอนด์ เมื่อเทียบกับระดับ 1.9525 ดอลลาร์ต่อปอนด์เมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากที่รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจแปรรูปธนาคารนอร์ทเธิร์น ร็อคมาเป็นกิจการของรัฐ
          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 108.2 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับ 108.18 เยนต่อดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา
          นายจอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน ไอเอฟอาร์ กล่าวว่า"นักลงทุนส่งแรงซื้อกันอย่างคึกคักในวันนี้ เพื่อชดเชยการทำช็อตเซลล์เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ ประกอบกับการส่งสัญญาณในเชิงลบของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเร็วๆนี้ "       
          ทั้งนี้ เบอร์นันเก้ออกมากล่าวเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เฟดจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคธุรกิจในยามที่เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นปัจจัยลบต่อสกุลเงินดอลลาร์
          ขณะที่นายจอห์น ไคเรียคูพูลอส นักวิเคราะห์จากเอ็นเอบี แคปิตอล มองว่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นอีก          
          "เรากังวลว่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะยิ่งอ่อนค่าลงมากเกินไป เนื่องจากเราได้ซึมซับข่าวร้ายจากเศรษฐกิจสหรัฐมาตลอด โดยเราคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 2% ภายในเดือนสิงหาคมนี้"นายจอห์นกล่าวทิ้งท้าย