นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 30.54/60 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว จากระดับปิดตลาดวานี้ที่ 30.60 บาท/ดอลลาร์
"บาททรงตัว หลังสงครามการค้าดูคลี่คลายลงส่งผลให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่า แต่ไม่ได้ effect กับบาท เราน่าจะวิ่ง ตามหยวน" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ระหว่าง 30.50-30.65 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (26 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.37414% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.35125%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 30.5975 บาท/ดอลลาร์
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 105.60/106.00 เยน/ดอลลาร์ จากวานนี้ (26 ส.ค.) ที่อยู่ที่ 105.77 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1080/1120 ดอลลาร์/ยูโร จากวานนี้ (26 ส.ค.) ที่อยู่ที่ 1.1119 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.6080 บาท/
ดอลลาร์
- รมว.คลัง สั่งให้กรมสรรพากรเร่งผลักดันกฎหมายการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (อี-บิสสิ
เนส) ยืนยันร่างกฎหมายเดิมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้สามารถเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาได้ในปีนี้และมีผล
บังคับใช้ได้ปีหน้า เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวจะมีส่วนช่วยเพิ่มรายได้ และสร้างความเป็นธรรมตามแผนการปรับโครงสร้างภาษีใหม่
- ครม.เศรษฐกิจประชุม 30 ส.ค.นี้ ถกแผนดันส่งออกครึ่งปีหลังให้โต 3% และหามาตรการดูดเงินลงทุนต่างชาติที่
หวังย้ายฐานผลิตหนีภัยสงครามการค้า ขณะที่ "จุรินทร์" ถก "วอร์รูม" ดันแผนส่งออกสินค้าเกษตรแบบเร่งด่วน ทั้งข้าวมัน
สำปะหลัง ยางพารา
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่
ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index
(CFNAI) ปรับตัวลง 0.4% ในเดือนก.ค. หลังจากที่ทรงตัวในเดือนมิ.ย. โดยดัชนี CFNAI เป็นดัชนีถ่วงน้ำหนักตัวชี้วัดกิจกรรม
ทางเศรษฐกิจของสหรัฐจำนวน 85 รายการ
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืน
นี้ (26 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้า
ระหว่างสหรัฐและจีน อันเนื่องมาจากถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งระบุว่า สหรัฐและจีนจะกลับมาเจรจาการค้ากันอีก
ครั้ง
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงิน
ดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากข้อ
พิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ส่งสัญญาณคลี่คลาย
- นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าวที่ฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ว่า
สหรัฐจะเริ่มเจรจาการค้ากับจีนอย่างจริงจัง พร้อมกับระบุด้วยว่า จีนได้ติดต่อทางโทรศัพท์มายังสหรัฐและเสนอให้กลับมาเจรจาร่วม
กัน
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้แสดงความกระตือรือร้นที่จะจัดการเจรจากับจีนในเร็วๆนี้ ขณะที่บรรดาผู้
นำกลุ่มประเทศ G7 ได้เรียกร้องให้สหรัฐเร่งทำข้อตกลงการค้ากับจีน เพื่อป้องกันการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ราคาบ้านเดือนมิ.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนี
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จาก Conference Board, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน
ประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2562 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales)
เดือนก.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค., การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ค. และดัชนีความ
เชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
--อินโฟเควสท์ โดย รัชดา คงขุนเทียน โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--