ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดแนวโน้มสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในช่วงที่เหลือของปี 2562 อาจเผชิญข้อจำกัดของการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี 2562 และธนาคารพาณิชย์หลายแห่งยังคงติดตามประเด็นคุณภาพสินทรัพย์ และต้องเร่งบริหารจัดการปัญหาในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ทั้งในและต่างประเทศ อาจเพิ่มความท้าทายต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยตลอดช่วงครึ่งหลังของปี
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในปี 2562 อาจเติบโตต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 4.5% เนื่องจากแม้สถานการณ์การปล่อยสินเชื่อสำหรับภาคธุรกิจ อาจทยอยขยับขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ตามปัจจัยเชิงฤดูกาลที่อาจจะหนุนให้มีการเบิกใช้สินเชื่อเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา แต่ต้องยอมรับว่าแรงส่งการฟื้นตัวของสินเชื่อธุรกิจดังกล่าว ยังคงขึ้นอยู่กับบรรยากาศของเศรษฐกิจไทยในภาพรวม
ขณะที่ทิศทางกำลังซื้อที่ยังอ่อนแอ สวนทางภาระหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น อาจยังเป็นข้อจำกัดการฟื้นตัวของสินเชื่อรายย่อยในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อยตัวหลัก ทั้งสินเชื่อบ้านและสินเชื่อรถที่มีการเร่งตัวไปมากแล้วระหว่างช่วงปลายปี 2561 ถึงกลางปี 2562 นอกจากนี้ การส่งสัญญาณกำหนดแนวทางการปล่อยสินเชื่อสำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบางของ ธปท. ก็อาจมีผลทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีด้วยเช่นกัน
โดยภาพรวมสินเชื่อสุทธิของธนาคารพาณิชย์ในเดือน ก.ค. สินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อรายย่อย ยังคงชะลอตัวลงเมื่อเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ตามภาพกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยังเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อธุรกิจน่าจะยังถูกกดดันจากการชำระคืนหนี้ ประกอบกับมีสัญญาณอ่อนแรงลง ทั้งสินเชื่อเพื่อการลงทุนระยะยาว และสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนทั้งสำหรับธุรกิจในประเทศ และธุรกิจในกลุ่มที่เกี่ยวโยงกับการส่งออก การค้าระหว่างประเทศ และการลงทุนขนาดใหญ่ ขณะที่สินเชื่อรายย่อยแม้จะยังขยายตัวต่อเนื่อง แต่ก็เป็นอัตราที่ชะลอลงกว่าในช่วงหลายเดือนก่อน โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สอดคล้องกับยอดโอนบ้าน และยอดขายรถยนต์ในประเทศที่เร่งตัวไปมากแล้วในช่วงต้นปี
ทั้งนี้ สัญญาณชะลอตัวของสินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อรายย่อยดังกล่าว กดดันภาพรวมสินเชื่อสุทธิของธนาคารพาณิชย์ในเดือน ก.ค. 2562 ให้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเพียง 2,920 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน 3.84% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 21 เดือน ส่งผลทำให้ภาพรวมสินเชื่อสุทธิในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นเพียง 1.00% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2561
ขณะที่ภาพรวมเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 14 แห่ง กลับมาเพิ่มขึ้น 1.26 แสนล้านบาท (+0.99% MoM) ในเดือน ก.ค. 2562 นำโดย เงินฝากของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่และธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางบางแห่ง โดยบางส่วนเป็นเงินฝากนิติบุคคลจากลูกค้าธุรกิจของธนาคารนั้นๆ ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เงินฝากรวมเร่งตัวขึ้น 4.28% ในเดือน ก.ค. จากที่ขยายตัวเพียง 3.03% ในเดือนก่อนหน้า
สำหรับภาพรวมสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์นั้น ยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 3.6 ล้านล้านบาทในเดือนก.ค. 2562 และน่าจะทรงตัวอยู่ในกรอบประมาณ 3.5-3.7 ล้านล้านบาทในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งยังคงเพียงพอรองรับการดำเนินธุรกิจ
สำหรับสถานการณ์แคมเปญเงินฝากประจำพิเศษนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้ธนาคารพาณิชย์มีการออกแคมเปญเงินฝากใหม่ในเดือนก.ค. 2562 เพื่อชดเชยกับแคมเปญที่ครบกำหนด แต่แคมเปญที่ออกใหม่โดยเฉลี่ยส่วนใหญ่มีระยะเวลาที่สั้นลง ขณะที่สัญญาณซึ่งสะท้อนว่า ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่น่าจะพยายามดูแลภาระดอกเบี้ยจ่ายให้อยู่ในระดับที่มีความเหมาะสมแรงกดดันต่อทิศทางรายได้ดอกเบี้ย ภายหลังจากที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีและรายย่อยไปแล้ว ทำให้คาดว่าแคมเปญเงินฝากพิเศษในเดือนนี้ อาจมีจำนวนน้อยลงเมื่อเทียบกับตัวที่จะทยอยครบกำหนด
อนึ่ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สรุปข้อมูลสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่อง ของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2562 จากเอกสารรายการย่อแสดงสินทรัพย์และหนี้สิน (ธ.พ.1.1)