น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบประมาณวงเงิน 13,378 ล้านบาท เพื่อใช้ในการประกันรายได้ให้แก่ชาวสวนปาล์มที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร 3 แสนราย ในระยะเวลาโครงการตั้งแต่เดือน ส.ค.62 - ก.ย.63
สำหรับผลปาล์มทะลายที่เข้าโครงการประกันรายได้นี้จะต้องมีคุณภาพน้ำมัน 18% โดยจะประกันรายได้ที่ราคา ก.ก.ละ 4 บาท ณ หน้าโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม โดยจะให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และต้องเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มที่ให้ผลผลิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
ทั้งนี้ เกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างโอนเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยตรง หากราคาตลาดต่ำกว่าราคารับประกันรายได้ พร้อมกันนี้ จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการบริหารโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลโครงการโดยเฉพาะ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบแนวทางการดำเนินการบริหารปาล์มน้ำมันทั้งระบบ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของหลายกระทรวง เพื่อเร่งเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศ และควบคุมปริมาณน้ำมันปาล์มไม่ให้ล้นตลาด
โดยในส่วนของการเพิ่มปริมาณความต้องการใช้น้ำมันปาล์มนั้น มาตรการแรก ครม.เห็นชอบให้กระทรวงพลังงาน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เร่งรัดการจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่เหลือ 133,750 ตัน เพื่อนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางประกงให้ครบ 200,000 ตัน ตามมติครม. เมื่อวันที่ 7 พ.ค.62 ให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์
มาตรการที่สอง ครม.เห็นชอบให้กระทรวงพลังงานเร่งดำเนินการผลักดันให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 10 เป็นน้ำมันดีเซลมาตรฐานภายในสิ้นปี 2562 จากเดิมที่ค่ามาตรฐานเป็น บี 7 และสนับสนุนให้ใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 และบี 7 เป็นมาตรฐานทางเลือก
"ทั้ง 2 แนวทางนี้ ถ้าสามารถทำได้สำเร็จตามเป้าหมาย เชื่อมั่นว่าจะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มมีราคาที่สูงขึ้นได้อย่างแน่นอน" น.ส.รัชดา กล่าว
พร้อมระบุว่า ครม.ยังเห็นชอบตามข้อเสนอขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่าหากจะมีการจัดซื้อรถเมล NGV ก็ให้พิจารณาจัดซื้อรถเมล์ที่สามารถใช้น้ำมันบี 20 แทน ซึ่งจะช่วยทำให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซลในประเทศเพิ่มขึ้นมาก และส่งผลดีต่อราคาปาล์มน้ำมัน
น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า ที่ประชุมครม.ยังเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์หาช่องทางเพิ่มการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ ปาล์มบริสุทธิ์ และผลิตภัณฑ์ปาล์มไปประเทศที่มีศักยภาพ เช่น จีน และอินเดีย ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาในระดับทวิภาคี
ส่วนแนวทางการบริหารจัดการเพื่อป้องกันน้ำมันปาล์มล้นตลาดนั้น ครม.เห็นชอบให้กรมการค้าภายใน พิจารณาแนวทางการติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ โดยใช้เทคโนโลยีที่สามารถวัดได้ตลอดเวลา (real time) ซึ่งจะมีความเที่ยงตรง น่าเชื่อถือเพื่อเป็นเครื่องมือในการกำกับดูแลและบริหารจัดการสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการกักตุน หรือลักลอบนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดเงื่อนไขการบริหารการนำเข้าที่เข้มงวดขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปภายใต้ข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาสินค้า
ขณะเดียวกัน ครม.ยังเห็นชอบให้กรมศุลกากร กรมการขนส่งทางบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพเรือ กองทัพบก และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ควบคุมกำกับดูแลการนำเข้าน้ำมันปาล์มทั้งในระบบปกติ และควบคุมไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าประเทศ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในภาคเกษตรปาล์มน้ำมัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับมอบหมายจาก ครม.ให้เร่งผลักดันการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว