นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ชี้แจงประเด็นการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของ กฟผ.ว่า เป็นการดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 เพื่อส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติในการเปิดเสรีแก่บุคคลที่สาม โดยมอบหมายให้ กฟผ.นำร่องเป็นผู้จัดหาและนำเข้า LNG ไม่เกิน 1.5 ล้านตันต่อปี
กฟผ.ดำเนินการเปิดประมูลจัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติตามขั้นตอนอย่างเปิดเผยและโปร่งใส โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกรายทั้งในประเทศและต่างประเทศแข่งขันเสนอราคา จนกระทั่งได้ผู้เสนอราคา LNG ที่มีราคาถูกกว่าราคาต่ำสุดของสัญญาจัดหาระยะยาวของประเทศในปัจจุบัน และหากนำไปเฉลี่ยรวมกับก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยและเมียนมาร์ จะมีราคาถูกลงเมื่อเทียบกับ LNG ที่ใช้อยู่ในระบบปัจจุบัน โดยจะนำไปใช้ในโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของ กฟผ. เพื่อไม่ให้เกิดภาระต้นทุนการผลิตไฟฟ้า
ส่วนความกังวลว่าการนำเข้า LNG ของ กฟผ.จะทำให้เกิดปัญหาค่าปรับตามสัญญาไม่ใช้ก็ต้องจ่าย หรือ Take or Pay นั้น กฟผ. มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหา เนื่องจาก กฟผ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมแผนบริหารจัดการเพื่อไม่ให้เกิดค่า Take or Pay โดยสัญญาซื้อขาย ของ กฟผ.มีความยืดหยุ่น สามารถปรับลดปริมาณการนำเข้า โดยกำหนดปริมาณไว้ระหว่าง 0.8 -1.5 ล้านตันต่อปีอีกทั้ง กฟผ.ได้เจรจากับบริษัทคู่สัญญาให้ดำเนินการขาย LNG ส่วนที่ไม่ได้ใช้ให้กับรายอื่นแทน กฟผ. ต่อไป
ทั้งนี้ กฟผ. ดำเนินการตามนโยบายของรัฐ เพื่อส่งเสริมให้เกิดประสิทธิภาพการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติของประเทศ โดย กฟผ. เล็งเห็นถึงโอกาสในการเลือกซื้อ LNG ในราคาต่ำสุด ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดจากใช้ไฟฟ้าราคาถูกลงในอนาคต