ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.64 อ่อนค่าจากวานนี้ กลับมากังวลสงครามการค้าที่ยังไม่ชัดเจน-ตลาดบอนด์สหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 28, 2019 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 30.64 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวาน นี้ที่ปิดตลาดที่ 30.57 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทกลับมาอ่อนค่า หลังนักลงทุนกลับมากังวลปัญหาสงครามการค้าอีกรอบ หลังจากทำท่าจะดีขึ้นหากสหรัฐฯและจีนจะ กลับมาเจรจาร่วมกันอีกครั้ง แต่จีนออกมาปฏิเสธเพราะไม่ได้รับการติดต่อจากสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา... ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯระยะไกลก็ตกลงมาต่ำกว่าผลตอบแทนพันธบัตรระยะใกล้แล้ว" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 30.55-30.70 บาท/ดอลลาร์ โดยยังคงต้องติดตาม ปัญหาสงครามการค้าต่อไป

THAI BAHT FIX 3M (27 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.24297% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.27348%

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 105.76 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 105.82 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1084 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 1.1108 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.591 บาท/ดอลลาร์
  • ประธานสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (United States - ASEAN Business Council - USABC) กล่าว
ว่า นักลงทุนกำลังให้ความสนใจต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
  • รมว.คลัง กล่าวยอมรับเศรษฐกิจโลกมีความผันผวนจนเกิดปัญหากระทบเศรษฐกิจทั่วโลกรวมถึงไทย และนั่นเป็นสัญญาณให้
เห็นถึงความท้าทายว่า เศรษฐกิจประเทศไทยมีความเสี่ยง และอาจต้องเผชิญหน้ากับปัญหานี้ต่อไปอีกระยะ
  • "แบงก์ชาติ" เผยยอดเก็งกำไรค่าเงินบาทลดลง หลังออก 2 มาตรการดูแล พบนักลงทุนต่างชาติระมัดระวังมากขึ้น ขณะ
เงินบาททยอยแข็งค่าต่อเนื่อง ล่าสุดปิดที่ 30.58 ต่อดอลลาร์ ทำสถิติแข็งสุดรอบ 6 ปี
  • หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้แบงก์พาณิชย์ได้แข่งขันระดมเงินฝากกันสูงขึ้นโดยออก
ผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำพิเศษ เนื่องจากต้องการรักษาฐานลูกค้าเงินฝากเดิมไม่ให้หนีไปฝากเงินสลากออมทรัพย์ของสถาบันการเงินเฉพาะ
กิจของรัฐ(แบงก์รัฐ) ที่นอกจากได้ดอกเบี้ยแล้วยังได้ลุ้นรางวัล และมีกรณีภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 15% ด้วย แต่แบงก์พาณิชย์ไม่ได้
ระดมเงินฝากเพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อ เพราะแนวโน้มสินเชื่อในครึ่งปีหลังยังไม่ได้ดีมองว่าจะชะลอลงด้วย เนื่อง จากภาวะเศรษฐกิจที่
ชะลอตัว
  • โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวยืนยันว่า เขาไม่ได้รับทราบข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่จีนได้โทรศัพท์ 2 ครั้งมายัง
เจ้าหน้าที่สหรัฐเพื่อเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาเจรจาการค้า ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวอ้าง
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ให้ความสนใจต่อกลุ่มผู้ผลิต
ของสหรัฐ และมักตัดสินใจผิดพลาด
  • อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ระบุว่า เฟดไม่ควรช่วยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อสู้สงคราม
การค้ากับจีน
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี เมื่อคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย อยู่ที่ระดับ 1.549% ขณะที่อัตราผลตอบ
แทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 1.513% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 1.987% ซึ่งถือ
เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.ปีนี้ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีร่วงลงต่ำกว่าระดับ 2.00%
  • ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่
ระดับ 135.1 ในเดือนส.ค. จากระดับ 135.8 ในเดือนก.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 129.5
  • ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนมิ.
ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว แต่ชะลอตัวจากที่เพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ค.
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนและเงินบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้
(27 ส.ค.) หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงหลังจากตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิด
ภาวะ inverted yield curve หรือภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นสูงกว่าอัตราผลตอบแทนระยะยาว ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้ม
เศรษฐกิจถดถอย
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลัง
จากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรง
หนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์,

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2562 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending

home sales) เดือนก.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค., การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ค. และ

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ