รมว.คลัง ให้คำมั่นนลท.เดินหน้าลงทุน-ดูแลศก.เพื่อยกระดับประเทศให้เติบโตในงาน"Thailand Focus"

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 28, 2019 13:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวเปิดงาน Thailand Focus 2019 และปาฐกถาพิเศษ Opening Speech : The New Policy Paradigm "มองไปข้างหน้า สู่นโยบายใหม่" ว่า ประเทศไทยได้เคยผ่านวิกฤติเศรษฐกิจหลายครั้งในรัฐบาลก่อนหน้านี้ ในปี 2557 ประเทศไทยมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 1% และ ในปี 2561 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 4.1% สำหรับปี 2562 ท่ามกลางปัจจัยเสียงจากเศรษฐกิจโลก ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้เหลือ 3.2% หลังจากในปี 2561 เศรษฐกิจโลกขยายตัวได้ 3.6% สำหรับเศรษฐกิจไทยยังสามารถขยายตัวได้แม้จะชะลอตัวลง โดย GDP ไทยไตรมาสแรก ขยายตัว 2.8% และ 2.3% ในไตรมาส 2

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปัจจุบันได้ตระหนักถึงความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นและเตรียมพร้อมหลายด้าน เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจไทยต่อไป ล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 3.16 แสนล้านบาท เพื่ออัดฉีดเงินสู่ระบบแก่กลุ่มเกษตรกร SME เพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในประเทศ ได้แก่ สินเชื่อเกษตรกร อัตราดอกเบี้ย 0.1% การพักชำระหนี้ มาตรการบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้ง การเพิ่มเงินให้แก่ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14.6 ล้านคน

นายอุตตม กล่าวว่า รัฐบาลได้เดินหน้าการปฏิรูปเพื่อยกระดับประเทศให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน และ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ โดยสานต่อโครงการต่างๆ ที่ริเริ่มโดยรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานประเทศ เช่น โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การพัฒนาโครงการพื้นฐานด้านดิจิทัลให้ทั่วถึงภาคชนบท การพัฒนาทุนมนุษย์ และ การลงทุนด้านเทคโนโลยี ซึ่งประเทศไทยได้เดินตามแผนการได้ตามกำหนด และ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เห็นได้จาก WEF ปรับเพิ่มอันดับความสามารถในการแข่งขันปี 2018 ของไทยสู่อันดับ 38 จาก อันดับ 40 ในปี 2560 IMD ปรับเพิ่มอันดับความสามารถในการแข่งขันปี 2561 ของไทยสู่อันดับ 25 จาก อันดับ 30 ในปี 2560 และธนาคารโลก จัดอันดับ Ease of Doing Business หรือ ความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของประเทศไทย ติดสูงสุด 3 อันดับแรกของอาเซียน ตามหลังเพียง สิงคโปร์และ มาเลเซีย ตลอดจนบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ทั้ง มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ และ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับคาดการแนวโน้มของประเทศไทยดีขึ้น จาก "Stable" เป็น "Positive"

นอกจากนี้ รัฐบาลมีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนเต็มที่ โดยทางคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI)ได้พิจารณาปรับเงื่อนไขการลงทุนเพื่อส่งเสริมการลงทุนให้มากขึ้น รวมถึงในส่วนกระทรวงการคลังก็พิจารณากฏหมายที่เกี่ยวกับการดูแลด้าน e-Commerce ที่จะทำให้เกิดความโปร่งใส และการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในชำระภาษีผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ และการช่วยเหลือ SME อย่างครบวงจร

ทั้งนี้ สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันสามารถบริหารจัดการได้ มีมาตรการที่ตรงจุด ซึ่งโอกาสใหม่ๆ ของประเทศมีจริง จากการปรับเปลี่ยนประเทศตามยุทธศาสตร์ เน้นลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนในด้านการพัฒนาบุคคลากร ลงทุนในด้านวิจัยและพัฒนา และทำให้นักลงทุนมั่นใจว่า มาตรการต่างๆที่ออกมาอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง

สำหรับมาตรการ ช็อป ชิม ใช้ เป็นมาตรการที่ออกมามีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และลดผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง ซึ่งมาตรการที่ออกมาต้องการส่งเสริมให้เกิดการใช้จ่าย โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME และกลุ่มผู้มีรายได้น้อย

ส่วนกรณีที่พบว่า มีผู้ถือบัตรสวัสดิการ กดเงินไปซื้อสุรานั้น รมว. คลัง ยอมรับว่า พบบ้างแต่เป็นส่วนน้อย ซึ่งได้มอบหมายให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสื่อสารและทำความเข้าใจกับประชาชนถึงวัตถุประสงค์ในการใช้บัตรสวัสดิการ

ขณะที่ความคืบหน้าที่ทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณากองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF) เพื่อมาแทนกองทุน LTF นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียด ซึ่งจะได้ความชัดเจนภายในเร็วๆนี้ ซึ่งจะพิจารณาถึงความเหมาะสมในรอบด้าน

นายอุตตม กล่าวว่า แผนการพัฒนาประเทศที่ได้ดำเนินการมาด้วยความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน จึงให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าต่อเนื่องไปนั้น จะให้ความมั่นใจกับนักลงทุนได้ว่ามีโอกาสใหม่ๆ เกิดขึ้นต่อไป ทั้งนี้ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคด้วยความเหมาะสมทั้ง สภาพทางภูมิศาสตร์ ทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพขนาดตลาดที่ใหญ่และความเชื่อมโยงกับภูมิภาคโดยรวม

พร้อมระบุว่า การทำงานของรัฐบาลปัจจุบันซึ่งมีพรรคร่วมรัฐบาลถึง 19 พรรคว่าเป็นไปด้วยดี เพราะทุกพรรคการเมืองตระหนักดีว่ามีความคาดหวังจากประชาชนต่อรัฐบาลนี้สูงมาก เพราะเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 8 ปี ขณะที่ฝ่ายค้านมีความคาดหวังสูงเช่นกัน จึงทำหน้าที่อย่างแข็งขัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ