นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อ มั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (RSI) ประจำเดือนสิงหาคม 2562 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) ยัง ทรงตัว โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ยังมีทิศทางขยายตัวจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการเป็นปัจจัยสนับสนุน ขณะที่ ควรเฝ้าระวังสถานการณ์เศรษฐกิจของภาคกลาง โดยเฉพาะในภาคเกษตร
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงขยายตัวอยู่ที่ระดับ 67.8 โดยใน 6 เดือนข้างหน้า จะได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจพื้นฐาน เช่น สนามบิน เส้นทางการคมนาคม ขนส่งที่สะดวกขึ้น ทำให้เมืองขยายตัว แต่คาดว่าจะมีผู้ประกอบการชะลอการลงทุนในอีกหลายจังหวัด ประกอบกับมีจำนวนนักท่องเที่ยวไทย เพิ่มเติมชดเชยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขยายตัวน้อยกว่า
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ที่ระดับ 65.6 จากแนวโน้มภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ ที่ดี เนื่องจากมีการส่งเสริมจากภาครัฐ และมีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในภูมิภาค ในส่วนของภาคบริการ ถึงแม้จะมีการประชาสัมพันธ์การ ท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง แต่เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งอาจทำให้การท่องเที่ยวลดลงในบางจังหวัดของภาคตะวันออก
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือ ยังมีทิศทางการขยายตัวที่ดีอยู่ที่ 63.8 เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้ม ของภาคบริการและภาคการลงทุน โดยภาคบริการคาดว่าขยายตัวเนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว แต่มีปัจจัยฉุดรั้งจากจำนวนนักท่องเที่ยว ต่างชาติ ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อการตัดสินใจเข้ามาท่องเที่ยว สำหรับภาคการลงทุน คาดว่ามีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและการท่องเที่ยวภายในประเทศ แต่ยังมี ปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนบางส่วนยังรอดูนโยบายของรัฐบาลที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคใต้ ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ที่ระดับ 63.2 โดยจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการบริการ และภาคลงทุนเป็นหลัก ในส่วนของภาคการบริการ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ในส่วนของภาคการ ลงทุน คาดว่าปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาล ประกอบกับนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ ในทุกภาคส่วน อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ทำให้ในบางจังหวัดยังมีการชะลอการลงทุนอยู่ บ้าง
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก ขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 62.2 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการ บริการและภาคเกษตรเป็นหลัก โดยคาดว่าภาคบริการจะขยายตัวจากการท่องเที่ยวส่งผลให้การจ้างงานเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม นโยบาย ปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนเพิ่มของผู้ประกอบการเช่นกัน ส่วนภาคเกษตรคาดว่าจะเป็นผลมาจากการคาดการณ์ แนวโน้มภาคเกษตรภาพรวม 6 เดือนข้างหน้ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก ประกอบกับมีการดำเนินนโยบายส่งเสริม และสนับสนุนด้านการเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนของการลงทุนในภาคการประมง เกษตรกรยังคงรอดู การสนับสนุนจากรัฐบาล
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม.และปริมณฑล ขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 61.1 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก จากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ โดยในส่วนของภาคอุตสาหกรรม ได้อานิสงส์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ยังคงมีบาง จังหวัดที่รายงานว่าจะมีแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรมหดตัวลง เช่น จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี ในส่วนของภาคบริการ คาดว่าจะ ขยายตัวจากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล และในภาพรวมมีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลาง ชะลอลงมาอยู่ที่ 56.3 โดยควรเฝ้าระวังสถานการณ์ในภาคเกษตร เนื่อง จากคาดว่าปริมาณน้ำสำหรับการเกษตรน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ประกอบกับในบางจังหวัดเกิดการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืช
ตารางสรุปดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค ปี 2562 (ณ เดือนสิงหาคม 2562)
กทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันตก
ดัชนีความเชื่อมั่นฯ 61.1 65.6 67.8 63.2 56.3 63.8 62.2 ดัชนีแนวโน้มรายภาค - ภาคเกษตร 58.4 55.5 66.7 61.9 50.9 58.7 66.9 - ภาคอุตสาหกรรม 68.4 80.0 69.1 55.4 52.2 61.8 56.4 - ภาคบริการ 72.7 67.5 69.4 75.9 68.0 71.4 71.8 - ภาคการจ้างงาน 55.3 59.3 65.4 57.7 55.0 62.6 56.4 - ภาคการลงทุน 50.7 65.7 68.6 65.2 55.4 64.3 59.3