เมอร์ริล ลินช์คาดว่า กลุ่มบริษัทผู้ผลิตเหล็กของจีนจะยอมรับการขึ้นราคาสินแร่เหล็ก 65% หลังจากที่บริษัท นิปปอน สตีล ผู้ผลิตเหล็กของญี่ปุ่น และบริษัท พอสโค ของเกาหลีใต้ได้ทำข้อตกลงกับบริษัทเหมืองยักษ์ใหญ่ของบราซิล คือ บริษัท คอมพานเฮีย วาล โด ริโอ โดซ์ (CVRD) ขึ้นราคาสินแร่เหล็ก 65% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.
การขึ้นราคาครั้งนี้สูงกว่าที่ตลาดได้มีการคาดการณ์ไว้ 20-50% เมอร์ริล ลินช์ คาดว่า ราคาสินแร่เหล็กในปีนี้จะขยายตัว 40%
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า กลุ่มบริษัทผู้ผลิตเหล็กจีนยังไม่ได้ออกมาประกาศจุดยืนขานรับกับการขึ้นราคา แต่คาดว่าจะออกมาตอบรับเมื่อบริษัทเหมืองยักษ์ใหญ่อย่างริโอ ทินโต และบีเอชพี บิลลิตัน ตัดสินใจยอมรับการขึ้นราคาสินแร่เหล็กที่มี CVRD เป็นแกนนำ
อเล็กซานเดอร์ ลาทซาร์ และไอรีน ยี นักวิเคราะห์ของเมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้เป๋าสตีล ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทเหล็กจีนยังไม่ได้ออกมาประกาศใดๆ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าข้อตกลงครั้งนี้จะเป็นมาตรฐานที่สำคัญของวงการเหล็ก
ทั้งนี้ บริษัท เป๋าชาน ไอออน แอนด์ สตีล หรือเป๋าสตีล เป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าเหล็กและเหล็กกล้าชั้นนำของจีน
การขึ้นราคาสินแร่เหล็กล่าสุดนี้ สูงกว่าสถิติการขึ้นราคาเหล็กที่ผ่านมาแล้ว 5 ครั้งตั้งแต่ปี 2544 และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสัดส่วนกำไรของกลุ่มบริษัทผู้ผลิตเหล็กมากขึ้น เนื่องจากบริษัทเหล็กต้องรับภาระจากต้นทุนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นอย่างสินแร่เหล็ก ถ่านหิน ตลอดจนต้นทุนการขนส่งสินค้าทางเรือ
นอกจากนี้ การขึ้นราคาสินแร่เหล็กยังชี้ให้เห็นว่า ต้นทุนในการผลิตเหล็กจะอยู่ที่ระดับประมาณ 377 หยวนต่อตัน และสูงขึ้นเกือบ 2 เท่าจากต้นทุนถ่านหินโค้กที่สูงขึ้น เมอร์ริล ลินช์ระบุ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ที่ผ่านมา ราคาเหล็กดีดตัวขึ้นมากแม้ว่าความต้องการประจำฤดูกาลจะอยู่ในระดับต่ำ ท่ามกลางการคาดการณ์เรื่องต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและปริมาณเหล็กสำรองในระดับต่ำ อันเนื่องมาจากปัญหาติดขัดด้านผลิตในช่วงขาดแคลนไฟฟ้าจังหวะที่พายุหิมะพัดถล่มจีน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--