อัตราเงินเฟ้อของมาเลเซียในเดือนม.ค.มีแนวโน้มสูงสุดในรอบ 10 เดือน เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้นได้ส่งผลให้ต้นทุนอาหารปรับตัวเพิ่มขึ้นตามมา
นักวิเคราะห์ 18 คนจากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ราคาผู้บริโภคในเดือนม.ค.ขยายตัวขึ้น 2.4% จากปีก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับที่พุ่งสูงขึ้นในเดือนธ.ค.โดยสำนักงานสถิติมาเลเซียจะรายงานตัวเลขเงินเฟ้อในเย็นวันพรุ่งนี้
"ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นยังคงเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาอาหารและการขนส่งปรับตัวเพิ่มขึ้นตามมา" อัลวิน เลียว นักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ในสิงคโปร์กล่าว "ขณะที่ภาวะผลผลิตในประเทศขาดแคลน อันเนื่องมาจากปัญหาน้ำท่วมในมาเลเซียเมื่อเดือนธ.ค.ก็เหตุผลหนึ่งที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น"
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของมาเลเซียถีบตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งภาวะดังกล่าวเป็นตัวสกัดกั้นมิให้ธนาคารกลางมาเลเซียปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง แม้ว่าอุปสงค์ของสหรัฐที่ชะลอตัวลงจะฉุดรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจของมาเลเซียก็ตาม ทั้งนี้ ธนาคารกลางมาเลเซียได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมที่ 3.5% ในที่ประชุมครั้งที่ 14 ติดต่อกันเมื่อเดือนที่ผ่านมา
"แรงกดดันด้านเงินเฟ้อน่าจะยังคงมีอยู่ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ก่อนที่จะชะลอตัวลงในไตรมาสที่สอง" เทสซึโอะ โยชิโคชิ นักวิเคราะห์จากซูมิโตโมะ มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ป ในสิงคโปร์กล่าว
นักวิเคราะห์ 14 รายคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของมาเลเซียอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับเฉลี่ยที่ 2.9% ในปีนี้จากระดับ 2% ในปีที่ผ่านมา โดยธนาคารกลางมาเลเซียจะเข้าประชุมกันในวันที่ 25 ก.พ.นี้ เพื่อหารือถึงอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบไต่ระดับขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 100.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ขณะที่เมื่อวานนี้สัญญาน้ำมันปาล์มล่วงหน้าพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,555 ริงกิตต่อตัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--