นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ กล่าวภายหลังนำ นาย สก โสเพียก รมช.พาณิชย์ของกัมพูชา และคณะ ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน ณ แหล่งเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดสระบุรี และตลาดไทในจังหวัดปทุมธานี ว่า ภารกิจนี้เป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทยว่ามีมาตรฐานสากล และเมื่อนำไปใช้ผลิตเป็นอาหารสัตว์หรือผลิตภัณฑ์อื่นจะทำให้สินค้าประเภทนั้นๆ เป็นที่ยอมรับของตลาดโลก ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของระบบการบริหารจัดการตลาดกลางสินค้าเกษตรที่ครบวงจรของไทยและใหญ่ที่สุดในอาเซียน เพื่อเป็นแนวทางให้กัมพูชานำไปปรับมาตรฐานการผลิตและการกระจายสินค้าเกษตรให้มีมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคการผลิตและภาคการส่งออกของทั้งสองประเทศและต่ออาเซียนในที่สุด
รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชาในครั้งนี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจที่ดีระหว่างกัน และนำไปสู่การขยายการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศให้บรรลุเป้าหมายการค้าที่ 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2563 ตามที่ตั้งเป้าไว้ ซึ่งสอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเร่งรัดการส่งออกสินค้าและบริการ โดยเน้นส่งออกพืชผลทางการเกษตร และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกของไทยสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดอาเซียน
ทั้งนี้ในปี 2561 กัมพูชาเป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 ของไทยในอาเซียน และอันดับที่ 18 ของไทยในโลก ในปี 2561 การค้ารวมไทย-กัมพูชา มีมูลค่า 8,387.97 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 35.54% โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 6,851.96 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 การค้ารวมไทย-กัมพูชา อยู่ที่ 5,063.82 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์ และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ผักและของปรุงแต่งจากผัก ลวดและสายเคเบิ้ลที่หุ้มฉนวน อะลูมิเนียมและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ทองแดงและผลิตภัณฑ์