นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) มหานครการบินเจิ้งโจว ระหว่างคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษอากาศยานเจิ้งโจว (Zhengzhou Airport Economy Zone:ZAEZ) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
สำหรับความร่วมมือสำคัญตาม MOU ครั้งนี้ ได้แก่ 1.การแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ในการพัฒนามหานครการบิน ด้านต่างๆ อาทิ การวางผังศูนย์กลางการบินและการเชื่อมโยง กลยุทธ์การคัดเลือกอุตสาหกรรม ความร่วมมือสถาบันการศึกษาด้านการบินการวางผังเมือง การท่องเที่ยวและงานวิจัย เป็นต้น
2.การส่งเสริมการลงทุน และการจัดทำระบบ E-Commerce ในพื้นที่ EEC และ ZAEZ 3.การส่งเสริมการเชื่อมโยงด้านการบินครบวงจร ระหว่าง EEC และ ZAEZ และ 4.การสนับสนุนความร่วมมือและการพัฒนาในโครงการต่าง ๆ ระหว่าง EEC และ ZAEZ ให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต
ความร่วมมือที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นแนวทางการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออกในพื้นที่ 6,500 ไร่ของสนามบินอู่ตะเภา และบวกรัศมี 30 กิโลเมตรรอบสนามบิน (พัทยา-ระยอง) ที่ถูกวางให้เป็นมหานครการบินภาคตะวันออก
นายสมคิด กล่าวว่า ท่าอากาศยานเจิ้งโจว เป็นสนามบินที่เชื่อมโยงการคมนาคมของจีน ทั้งทางบก ทางราง และทางอากาศ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ในการกระจายสินค้าที่สำคัญของจีน โดยไทยจะนำโมเดลการพัฒนาเมืองการบินของเจิ้นโจวมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาเมืองการบินในไทย
นายสมคิด กล่าวว่า ท่าอากาศยานเจิ้งโจวมีพันธะสัญญาเชื่อมโยงด้านการค้าและการขนส่งกับทางยุโรป ซึ่งหลังจากการลงนาม MOU แล้วอยากใช้โอกาสนี้ในการเชื่อมโยงสินค้าจากไทยไปจีนและเชื่อมต่อไปยังสหภาพยุโรปด้วย พร้อมทั้งนำโมเดลและความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้าของเจิ้นโจวมาพัฒนาเมืองการบินของไทยด้วย
นายสมคิด ยืนยันว่า ปัญหาเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ไม่ส่งผลต่อการเดินหน้าโครงการนี้ และจากความร่วมมือที่ไทยเชื่อมโยงกับโครงการเส้นทางเศรษฐกิจ (One Belt One Road) จะเดินหน้าเปิดตลาดใหม่กับจีน ซึ่งตนเองมีกำหนดจะเดินทางไปเยือนเมืองกวางตุ้งและเซินเจิ้นในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อไปโรดโชว์ดึงดูดนักลงทุนให้เข้าลงทุนในไทยมากขึ้น