นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ "วิสัยทัศน์การนำประเทศไทยฝ่าวิกฤติทางเศรษฐกิจเพื่อให้ธุรกิจและการลงทุนในประเทศไม่สะดุด" ในงานสัมมนา "Battle Strategy แผนรบ สยบวิกฤติ Episode I : Do or Die ไม่ทำก็ตาย" ว่า ประเทศไทยจะไม่กลับไปสู่ยุควิกฤติเศรษฐกิจดังเช่นในปี 40 อย่างแน่นอน เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันแตกต่างจากอดีตเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันประเทศมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงภาคธุรกิจและสถาบันการเงินต่างๆ ที่มีความเข้มแข็ง จนส่งผลให้องค์กรต่างประเทศมีความเชื่อมั่นด้านเสถียรภาพการเงินการคลังของไทย
นอกจากนี้ คาดว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ)นี้ ที่ประชุมจะมีการพิจารณามาตรการเพื่อดึงดูดการลงทุน ที่จะเสนอโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
รมว.คลัง กล่าวว่า สำหรับชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้ออกมาล่าสุดนั้น รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลจะติดตามผลของมาตรการต่างๆ อย่างใกล้ชิด และขอเวลา 3-4 เดือนเพื่อประเมินผลมาตรการที่รัฐบาลได้ออกมา
"มาตรการนี้เราใช้เพื่อหวังผลในช่วงหลังของปีนี้ และจะดูว่าเป็นอย่างไร จะประเมินว่าจะต้องทำอะไรอีกไหม เดี๋ยวรอดู เราทำทีละขั้นตามที่จำเป็นก่อน" รมว.คลังกล่าว
ส่วนปัญหาสงครามการค้าที่ยังยืดเยื้ออยู่ในขณะนี้ เชื่อว่าด้วยพื้นฐานที่ดีของเศรษฐกิจไทย จะยังสามารถรับมือกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากประเทศไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งถือเป็นภูมิคุ้มกันที่ดี
"เราไม่ประมาท ต้องสร้างภูมิคุ้มกันของตัวเองทันที ถ้ามันเลิกเร็วได้ ก็ยิ่งดี เรายิ่งพร้อมจะเดินหน้า แต่ถ้าเลิกช้าเราก็ไปได้ เพราะเรามีภูมิคุ้มกัน" รมว.คลังกล่าว