นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวในงานสัมมนา "Battle Strategy แผนรบ สยบวิกฤติ Episode 1 : Do or Die ไม่ทำก็ตาย" ว่า กสทช.จะผลักดันให้เกิดเทคโนโลยี 5G ให้ได้ แม้ภาคเอกชนยังไม่มีความพร้อมจะลงทุน โดย กสทช. อาจจะเพิ่มใบอนุญาตเฉพาะพื้นที่ (Specific) เพื่อสนับสนุน Vertical industry เช่น ภาคผลิต ขนส่ง และภาคการเกษตร ในพื้นที่ EEC ขณะเดียวกันก็จะกำหนดเงื่อนไขการชำระเงินให้เหมาะสมเพื่อไม่เป็นภาระต่อผู้ประกอบการ และปรับปรุงเงื่อนไข Bank Guarantee ให้ยืดหยุ่นขึ้น
"ในยุคของ 4G ภาคเอกชนเองก็ยังไม่สามารถคืนทุนได้ และในยุคของ 5G กสทช.ได้เล็งเห็นถึงเรื่องการลงทุน ถ้าเอกชนไม่มีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการกับประชาชนได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เราอาจจะมีการผ่อนปรนเงื่อนไขเพื่อให้ผู้ประกอบการนำเงินไปลงทุน และสามารถเปิดให้บริการได้ เมื่อมีการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้วก็ค่อยกลับมาชำระเงิน"นายฐากร กล่าว
ทั้งนี้ กสทช. ได้วางแผนสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นไปที่การผลักดันให้เกิดเทคโนโลยี 5G ซึ่งในปัจจุบันก็มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยจัดทำแผนจัดสรรคลื่นความถี่ในย่าน 700MHz, 1500MHz, 1800MHz ,2600MHz ,3500MHz ,26GHz และ 28 GHz คาดว่าจะสามารถทยอยเปิดประมูลได้ตั้งแต่ปลายปี 62 เป็นต้นไป
นายฐากร กล่าวว่า การมีเทคโนโลยี 5G จะสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ ทั้งในภาคการผลิต ภาคเกษตร ภาคธนาคาร และภาคขนส่ง รวมถึงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคม จากการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่น การซื้อของออนไลน์, การสื่อสารผ่านโทรศัพท์แทนการคุยต่อหน้า, ความสัมพันธ์ในครอบครัวน้อยลง ซึ่งอนาคตจะเป็นสังคมเสมือนผ่าน VR/AR และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมือง โดยการหาเสียงในอนาคต จะเป็นสังคมเสมือนจริง, ระบบเลือกตั้งเป็นดิจิทัล หรือ ยืนยันตัวตนด้วย IoT Sensor, ลงประชามติ เป็น ดิจิทัล แต่อาจมีภัยคุกคามจาก Deep News เพิ่มขึ้น ไม่สามารถแยกแยะข่าวจริง ข่าวลวงได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังประเมินว่าเมื่อเกิดเทคโนโลยี 5G ขึ้น ภายในปี 78 จะสร้างมูลค่าเพิ่ม 2.3 ล้านล้านบาท ซึ่งจะกระจายไปในภาคการผลิต ภาคการขนส่ง การเกษตร และสาธารณสุข