นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของ SME ไทยที่มีร้านค้ากระจายอยู่ทั่วประเทศให้สามารถพัฒนาสินค้าและเพิ่มทักษะในส่งออกสินค้าที่มีคุณภาพของตนเองไปยังตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนได้
ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของสมาชิกในเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน (Young Entrepreneur Network Development Program : YEN-D Program) ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่จาก 7 ประเทศอาเซียน มีสมาชิกกว่า 1,400 ราย และมีการเจรจาธุรกิจ การซื้อขาย การค้าและการลงทุนระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าการค้าได้มากกว่า 4,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและความเข้มแข็งของสมาชิก YEN-D ที่จะสามารถสนับสนุนด้านการส่งออกสินค้าของ SME ไทยให้ขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้อย่างดี ประกอบกับเครือข่ายสมาชิกของสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ได้แก่ สมาคม ชมรม สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชนและกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจกว่า 70 กลุ่ม มีสมาชิกร้านค้ากว่า 15,000 รายทั่วประเทศ ซึ่งมีความแข็งแกร่ง มั่นคง และสามารถพัฒนาขีดความสามารถให้แข็งขันในตลาดโลกได้
นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีแผนจัดกิจกรรมอื่นๆ เพื่อติดปีกให้กับ SME ของไทย เช่น การจัดอบรมให้ความรู้เพื่อยกระดับคุณภาพของสถานประกอบการและศักยภาพของบุคลากรให้สอดรับการกับการค้ายุคใหม่ การส่งเสริมการค้าและมาตรฐานการส่งออกสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก การสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์และขยายการค้าการลงทุนระหว่าง SME ระหว่างไทยกับต่างประเทศ และการส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์และปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันกับต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งจากแผนการดำเนินงานทั้งหมดนี้ กรมฯ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถสร้างรายได้จากการค้าการลงทุนนี้ให้การกระจายไปสู่เศรษฐกิจรากฐานของไทยผ่านธุรกิจ SME ได้อย่างแน่นอน
อธิบกรมกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับโครงการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (Young Entrepreneur Network Development Program : YEN-D Program) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของประเทศเพื่อนบ้านมาพบเจอกัน เพื่อทำความรู้จักจนเกิดความสนิทสนมและนำมาซึ่งการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ โดยโครงการ YEN-D เน้นการสร้างเครือข่ายให้แก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่เป็นหลัก ส่วนการเป็นคู่ค้าทางธุรกิจนั้น ถือเป็นผลพลอยได้ที่ได้จากความสัมพันธ์ ภายใต้แนวคิดของโครงการที่ว่า "ความสัมพันธ์แบบเพื่อนมาก่อน แล้วธุรกิจจะตามมาเอง"
ที่ผ่านมาโครงการ YEN-D ได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน ครอบคลุมตั้งแต่โครงการ YEN-D Program ที่สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยและประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV ได้แก่ สปป.ลาว เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม จนประสบผลสำเร็จ จึงมีการผลักดันให้เกิดการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในพื้นที่แนวชายแดนภายใต้โครงการ YEN-D Frontier (โครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่การค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน) และในปี 2562 กรมฯ ได้ต่อยอดความสำเร็จสู่โครงการ YEN-D Plus ที่ขยายตลาดนอกประเทศ CLMV ไปสู่ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย และในปี 2563 กรมฯ ยังเดินหน้าผลักดันการค้าชายแดนผ่านโครงการ YEN-D อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ YEN-D Plus (อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย) YEN-D Frontier และ YEN-D Reunion เป็นต้น เพื่อมุ่งสร้างความร่วมมือทางการค้าการลงทุนและเป็นสะพานเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียนและกลุ่มประเทศเอเชียใต้ให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นต่อไป