น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบและอนุมัติการร่วมลงนาม รับรอง และให้ความเห็นชอบเอกสารในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 51 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวม 12 ฉบับ ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Minister: AEM) ครั้งที่ 51 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในระหว่างวันที่ 3-10 กันยายน 2562 ที่กรุงเทพมหานคร
โดยเห็นชอบร่างข้อตกลงยอมรับร่วม ผลการตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของอาเซียน (ASEAN Mutual Recognition Arrangement on Type Approval for Automotive Products) และร่างพิธีสารว่าด้วยกลไกระงับข้อพิพาทด้านเศรษฐกิจของอาเซียน (ASEAN Protocol on Enhanced Dispute Settlement Mechanism) รวม 2 ฉบับ
ทั้งนี้ ร่างข้อตกลงยอมรับร่วมผลการตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของอาเซียน เป็นการให้สิทธิประเทศสมาชิกในการแต่งตั้งหน่วยบริการทางเทคนิคในการทำหน้าที่ตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ยานยนต์และชิ้นส่วน เพื่อยื่นขอขึ้นบัญชีกับคณะกรรมการยานยนต์อาเซียน ซึ่งหน่วยบริการทางเทคนิคที่ได้รับการขึ้นบัญชีจะสามารถดำเนินการตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์สาขายานยนต์และชิ้นส่วนให้กับผู้ประกอบการอาเซียน และประเทศสมาชิกจะยอมรับผลการตรวจสอบเพื่อนำมาใช้ในการอนุญาตนำเข้าสินค้าโดยไม่ต้องตรวจซ้ำ
ขณะที่ร่างพิธีสารว่าด้วยกลไกระงับข้อพิพาทด้านเศรษฐกิจของอาเซียน เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และกระบวนการเกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเป็นการปรับปรุงพิธีสารฉบับเดิมให้ทันสมัยและมีความชัดเจนมากขึ้น สอดคล้องกับหลักการขององค์การการค้าโลก การลงนามในขั้นตอนนี้ เป็นการแสดงเจตจำนงในทางนโยบายของไทยที่จะดำเนินการตามหนังสือสัญญาดังกล่าว โดยเอกสารทั้ง 2 ฉบับ จะยังไม่มีผลผูกพันกับประเทศไทยตามกฎหมายระหว่างประเทศ
"ครม. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ลงนามในร่างข้อตกลงฯ และร่างพิธีสารฯ รวม 2 ฉบับดังกล่าว และเมื่อลงนามแล้ว ให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบข้อตกลงฯ และพิธีสารฯ รวม 2 ฉบับดังกล่าว ก่อนแสดงเจตนาให้มีผลผูกพันต่อไป" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ
นอกจากนี้ ยังมีร่างเอกสารที่จะรับรองรวม 4 ฉบับ ได้แก่ 1) ร่างแผนการดำเนินงานตามกรอบการบูรณาการด้านดิจิทัลของอาเซียน ปี 2562 – 2568 (ASEAN Digital Integration Framework Action Plan 2019 - 2025)
2) ร่างแนวทางการพัฒนาแรงงานมีทักษะ/ผู้ประกอบวิชาชีพเพื่อรับมือกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 (Guideline on Skilled Labor/Professional Services Development in Response to the Fourth Industrial Revolution)
3) ร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมอาเซียนไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 (ASEAN Declaration on Industrial Transformation to Industry 4.0)
4) ร่างแนวทางในการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยอาเซียน (Policy Guideline on Digitalization of ASEAN Micro Enterprises)
รวมถึงร่างเอกสารที่จะให้ความเห็นชอบรวม 6 ฉบับ ได้แก่ 1) ร่างการปรับปรุงข้อบทว่าด้วยระเบียบวิธีปฏิบัติด้านหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อรองรับระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าของอาเซียน (Amended ATIGA Operational Certification Procedure to allow for ASEAN-wide Self-Certification Scheme)
2) ร่างการปรับปรุงหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าของอาเซียน (Amended CO From D)
3) ร่างขอบเขตการดำเนินงานของการทบทวนความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (TOR: General Review of the ASEAN Trade in Goods Agreement)
4) ร่างแผนงานความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจยูเรเซีย (Programme of Cooperation between the Eurasian Economic Commission and the Association of Southeast Asian Nations for 2019 - 2020)
5) ร่างแผนงานเพื่อยกระดับการเจรจาความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – ออสเตรเลีย – นิวซีแลนด์ (AANZFTA FJC Work Plan for the Upgrade Negotiations)
6) ร่างแถลงการณ์ของรัฐมนตรีในโอกาสครบรอบ 10 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน – ออสเตรเลีย – นิวซีแลนด์ (Ministerial Statement on the 10th Year Anniversary of the AANZFTA)