น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 8 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 2-8 สิงหาคม 2562 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ รายงานให้ ครม.ทราบว่าได้หารือทวิภาคีกับประเทศคู่เจรจา ได้แก่ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ ซึ่งทุกประเทศพร้อมสนับสนุนไทยในฐานะประธานอาเซียน และประธานการประชุม RCEP ในปีนี้ และพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อให้การเจรจาบรรลุผลสำเร็จ โดยไทยคงต้องเดินหน้าแสดงบทบาทนำใน RCEP ต่อไป เนื่องจากความตกลงดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนของไทย
ทั้งนี้ การเจรจามีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยมีความคืบหน้าเพิ่มเติมของคณะเจรจาที่สามารถสรุปแนวทางการค้าบริการ ได้แก่ โทรคมนาคม การเงิน และบริการวิชาชีพ นอกจากนี้ การเจรจาเปิดตลาดไปดำเนินการไปแล้ว 68% จากคู่เจรจาทั้งหมด 225 คู่ ครอบคลุมประเด็น 3 ด้าน สินค้า บริการ และการลงทุน
ขณะเดียวกัน ได้มีการเจรจาเรื่องสำคัญที่ติดขัดในช่วงที่ผ่านมา คือ ข้อผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการของบางประเทศ การระงับข้อพิพาทระหว่างนักลงทุนเอกชนกับรัฐ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
น.ส.รัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า นายจุรินทร์ ยังได้รายงานให้ ครม.ทราบว่ายังมีประเด็นคงค้างที่ต้องเร่งหาข้อสรุปในช่วงเวลาที่เหลือ เช่น การเจรจาเปิดตลาดสินค้าและตลาดการค้าบริการระหว่างประเทศคู่เจรจา การจัดทำข้อบทสำคัญ (เช่น กฎถิ่นกำเนิดสินค้าการลงทุน และการเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา) ซึ่งหากประเทศพสมาชิกพร้อมที่จะยืดหยุ่นเพื่อหาทางออกร่วมกัน คาดว่าจะสามารถสรุปผลการเจรจาได้ตามเป้าหมาย เพื่อเตรียมข้อบทให้พร้อมสำหรับขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมาย โดยคาดว่ามีโอกาสสูงที่จะสำเร็จภายในปี 2563
"คาดว่าสิ้นปีนี้จะปิดดีลได้ และจะมีการลงนามกันในปี 63" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ