นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง (ASEAN Ministers on Energy Meeting and Associated Meetings: 37th AMEM) ในวันนี้ มีการหารือการขยายปริมาณการซื้อขายไฟฟ้าเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าพหุภาคีในโครงการลาว-ไทย-มาเลเซีย (LTM-PIP) จากเดิม 100 เมกะวัตต์ (MW) เป็น 300 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะมีการลงนามร่วมกันได้ก่อนเดือน ธ.ค.62 ขณะที่กรอบความร่วมมือดังกล่าวจะมีระยะเวลา 2 ปีนับตั้งแต่เดือนม.ค.63
"โครงการนี้นับเป็นโครงการต้นแบบของอาเซียนในการใช้ ASEAN Grid Connectivity เพื่อที่จะเชื่อมโยงพลังงานระหว่างอาเซียนร่วมกัน การประชุมเมื่อเช้าได้คุยกันถึงความสำเร็จในการร่วมมือของอาเซียนที่เป็นรูปธรรม ซึ่งข้อตกลงในวันนี้ก็จะนำไปสู่การเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้ และจะนำไปสู่การดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป"รมว.พลังงาน กล่าว
รมว.พลังงาน กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้หารือกันเพิ่มเติมว่าจะมีสิงคโปร์ที่แสดงความสนใจเข้ามาเป็นประเทศที่สี่ที่จะเข้ามาร่วมมือแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ากัน ซึ่งจะก่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าระหว่างประเทศ เพราะหากเกิดเหตุในจุดใดจุดหนึ่งก็สามารถใช้พลังงานจากประเทศเพื่อนบ้านมาช่วยแก้ปัญหาได้ เป็นการใช้จุดแข็งของแต่ละประเทศมาบริหารเรื่องความมั่นคงและเรื่องราคาพลังงานในอนาคต จะทำให้การบริหารจัดการมีความหลากหลาย และนำไปสู่ต้นทุนพลังงานในภูมิภาคที่สามารถแข่งขันได้ โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันที่จะขยายความร่วมมือกันต่อไป
สำหรับปริมาณที่มาเลเซียซื้อไฟฟ้าจากลาวในระดับ 300 เมกะวัตต์ โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านเชื่อมโยงโครงข่ายนั้น นับว่ายังมีปริมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับความต้องการใช้ของมาเลเซียที่มีมากถึง 24,000 เมกะวัตต์ แต่ก็นับเป็นการส่งสัญญาณการเริ่มต้นในแนวคิดเรื่องการเขื่อมโยงพลังงานของอาเซียน ส่วนสิงคโปร์ที่แสดงความสนใจจะเข้ามาร่วมมือเพิ่มเติมนั้นเป็น LTMS ก็จะได้มีการหารือในรายละเอียดกันต่อไป