ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์สหรัฐอ่อนเทียบเยน ขณะดอลล์นิวซีแลนด์พุ่งต่อ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 20, 2008 07:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์หน้า ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ยังคงแข็งแกร่งขึ้นตามดอลลาร์ออสเตรเลีย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.4732 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4678 ดอลลาร์ต่อยูโร (ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 18 ก.พ.เนื่องในวันประธานาธิบดี) ขณะเดียวกันดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 107.60 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 107.69 เยนต่อดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.7967 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7945 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.9188 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9133 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย
การทำ carry trade ช่วยหนุนดอลลาร์นิวซีแลนด์ให้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน นอกจากนี้ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ยังได้รับปัจจัยบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางนิวซีแลนด์จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 8.25% โดยขณะนี้ดอลลาร์นิวซีแลนด์เป็นสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงสุดในบรรดาสกุลเงินกลุ่มG-10
ส่วนค่าเงินปอนด์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของอังกฤษ โดยล่าสุดมีรายงานว่า รัฐบาลอังกฤษประกาศโอนกิจการธนาคารนอร์เทิร์นร็อคมาเป็นของรัฐ เนื่องจากธนาคารประสบปัญหาในตลาดซับไพรม์ ทำให้ธนาคารกลางของอังกฤษต้องปล่อยเงินกู้ให้นอร์เทิร์ร็อคเพื่อฟื้นฟูกิจการมูลค่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยในคืนวันพุธ (ตามเวลาประเทศไทย) กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค.
ส่วนวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สำนักงานคอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนม.ค. และเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียจะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนก.พ.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ