นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเปิดให้ร้านค้าเข้ามาร่วมลงทะเบียนในช่วงวันที่ 28 ส.ค. - 20 ก.ย.62 ตามมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว "ชิม ช็อป ใช้" จะเน้นเฉพาะร้านค้าที่มีหลักแหล่ง มีหน้าร้านชัดเจน ไม่ได้เปิดให้บุคคลธรรมดามาลงทะเบียนได้ เพราะยอมรับว่ามาตรการยังมีช่องโหว่ กังวลว่ากรณีที่ไม่ได้ทำธุรกิจจริง แต่ว่าลงทะเบียน โหลดแอพลิเคชั่น แล้วผู้ค้ากับผู้ซื้อที่เข้าร่วมมาตรการไม่ได้มีการซื้อขายจริง และไปตกลงกันเอง เพื่อแบ่งเงินกันที่จะได้รับคืน 15% จากวงเงิน 30,000 บาท หรือได้คืน 4,500 บาท ซึ่งกระทรวงการคลังไม่อยากให้เกิดขึ้น
ส่วนกรณีที่ร้านค้ายังให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการน้อย ซึ่งล่าสุดมีเพียง 3,300 ร้านค้า ต่ำกว่าเป้าที่ควรจะมีร้านค้ามาเข้าร่วมลงทะเบียน 500 ต่อวันนั้น กระทรวงการคลังจึงได้ปรับวิธีการโดยให้กรมบัญชีกลาง และคลังจังหวัด เร่งลงพื้นที่เชิงรุกเข้าหาผู้ประกอบการ ในกลุ่มเป้าหมายให้ได้ 40,000 ร้านค้า หรือเพิ่มเฉลี่ยเป็นวันละไม่ต่ำกว่า 1,000 ร้านค้า โดยแบ่งเป็น ร้านอาหารที่มีเลขทะเบียนพาณิชย์ 14,000 ร้านค้า ร้านอาหารขนาดเล็กในพื้นที่ 10,000 ร้านค้า ร้านโอทอป วิสาหกิจชุมชน 6,000 ราย และโรงแรม โฮมสเตย์ 10,000 ร้าน มาลงทะเบียนมาตรการทั้งหมด
"จากนี้ กระทรวงคลังจะไม่รอให้ร้านค้ามาลงทะเบียน แต่จะปรับวิธีการเชิงรุก เข้าไปหาผู้ประกอบการให้มาลงทะเบียนตามเป้าหมาย 40,000 ราย เพื่อติดตั้งแอพลิชั่นถุงเงิน แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ หากไม่ทันตามเวลาที่กำหนด 20 ก.ย. ก็จะขยายเวลาลงทะเบียนเพิ่มอีก ซึ่งต้องขอดูอีกครั้งว่าเมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว จะมีร้านค้ามาลงทะเบียนเพิ่มเท่าไร" นายลวรณกล่าว
ทั้งนี้ สำหรับสาเหตุที่มีร้านค้ามาลงทะเบียนน้อยกว่าที่คาดไว้ เชื่อว่าเนื่องจากผู้ประกอบการกังวลว่ากระทรวงการคลังจะส่งข้อมูลให้กับกรมสรรพากรเข้าไปตรวจสอบภาษี ซึ่งไม่เป็นความจริง กระทรวงคลังยืนยันว่าเป็นข้อมูลคนละส่วน และจะไม่มีการส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร เพราะเป็นการลงทะเบียนกับธนาคารกรุงไทย ดังนั้นจึงไม่ได้เกี่ยวข้องกัน
นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้า กระทรวงการคลังจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเพิ่มจุดใช้จ่ายจากมาตรการชิม ช้อป ใช้ จากเดิมแค่สินค้าโอทอป และธุรกิจพื้นเมือง ให้ครอบคลุมถึงธุรกิจท่องเที่ยวที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธรุกิจสปา ธุรกิจเช่ารถ ธุรกิจนำเที่ยว เพื่อให้การใช้จ่ายตอบโจทย์กับมาตรการมากขึ้น โดยกระทรวงการคลังจะนำเสียงตอบรับไปทบทวนรายละเอียดของมาตรการ ก่อนที่จะเริ่มในวันที่ 27 ก.ย.62