นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี คาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/62 จะเริ่มดีขึ้น หลังการเบิกจ่ายโครงการเมกะโปรเจ็คต์ทั้งหลายน่าจะทยอยออกมา รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกไปโดยกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเม็ดเงินอาจจะออกไม่ทันไตรมาส 3 แต่น่าจะมาไตรมาส 4 นอกจากนี้ การมีโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะดึงดูดอุตสาหกรรมใหม่ๆเข้ามาลงทุน
"ในช่วง 3 เดือนที่ฟอร์ม ครม.หรือ 1 ไตรมาสเต็มๆ ตอนนั้นตัวเลขการเบิกจ่ายของรัฐบาลตกเป้าเป็นแถว ทั้งราชการ รัฐวิสาหกิจทั้งๆ ที่เป็น Factor เดียวที่เราคุมได้ แต่ตอนเลือกตั้งทำอะไรไม่ได้เพราะรอดูว่าความแน่นอนอยู่ที่ไหน ขณะที่การลงทุนของภาคเอกชนตอนนั้นก็ไม่แน่ใจว่าประเทศไทยจะเดินไปทางไหนใครจะเป็นผู้นำ ทุกอย่างมีแต่ความไม่แน่นอน ทำให้ไตรมาส 2 เราถึงเห็นตัวเลขออกมาแบบนั้น ยิ่งมี Trade War บวกเข้ามาด้วย"นายสมคิด กล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ปัญหา Trade War น่าจะจบหลังเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา เพราะคาดว่าจะนำใช้ในการหาเสียงแน่นอน ฉะนั้นก็ต้องลากไปแบบนี้จนถึงช่วงนั้น ซึ่งน่าจะประคองอยู่ได้
"อนาคตเป็นสิ่งที่สร้างได้ แต่แน่นอนระหว่างทางอุปสรรคเต็มไปหมดไม่ต้องห่วงเพราะว่า Social Change มันต้องมีกลุ่มที่ไม่อยากจะ Change แต่ก็ต้องใช้วิธีการ Convince ทั้งหมด..ต้องอดทนและมันจะดีขึ้นเพราะมันสร้างได้จริงๆก็ต้องมีความหวังถ้าไม่มีความหวังก็อยู่ไม่ได้" นายสมคิด กล่าว ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "อนาคตเศรษฐกิจไทย เรากำหนดได้"
นายสมคิด กล่าวว่า จากวันนี้เป็นต้นไป เราต้องต่อยอดสิ่งที่ได้วางรากฐานไปไม่ว่าเรื่องคนจน เรื่อง Digital การสร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆ ภายใน 5 ปี ระบบ AI ระบบ 5G เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เรื่องการศึกษา การเดินหน้าต่อเรื่องของการปฏิรูป สร้าง Local Economy ให้แข็งแรง Smart Farmer เพราะภาคเกษตรไทยเทคโนโลยีต่ำ คนจน ไม่มีผู้นำ แต่คนวัยหนุ่มสาวเริ่มปรับตัวรับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามา ไม่ได้คิดแค่จะเป็นผู้ผลิต แต่ต้องการเป็นผู้ประกอบการ เพราะฉะนั้นนโยบายก็ต้องโฟกัสไปที่คนเหล่านี้...Digital เริ่มมาแรงทุกอย่างเป็นออนไลน์...โครงการที่เราจะต้องทำเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต อะไรถ้าไม่อยู่ในระบบก็ซื้อขายกับรัฐบาลไม่ได้ พร้อมเพย์เกิด หลายอย่างก็เกิดตามมา การสร้าง Startup ก็เป็นสิ่งสำคัญ
"ตอนนี้เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นแล้ว การปฏิรูปคือหัวใจสำคัญ แต่คนไทยและนักลงทุนไทยยังไม่ตื่นตัวการปฏิรูปเศรษฐกิจ คนไทยไม่เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย ไม่ยอมใช้จ่ายและไม่ยอมลงทุน ซึ่งต้องมีรัฐบาลและการเมืองที่เข้มแข็งอย่างมากถึงจะทำได้ การเป็นรัฐบาลผสม เสียงปริ่มน้ำ จึงต้องตั้ง ครม.เศรษฐกิจ เพื่อกำหนดทิศทางนโยบายเศรษฐกิจร่วมกันเพื่อให้เป็นทิศทางเดียวกัน"
สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ย.) นายสมคิด กล่าว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะนำเสนอมาตรการส่งเสริมด้านการลงทน
"เดี๋ยวรอฟังเขาก่อนว่าจะเสนออะไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีนะ และหลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องมาตรการเฉพาะอย่าง เพื่อดึงนักลงทุนที่มีความเคลื่อนย้ายให้เข้ามาลงทุน เอามาทีละเรื่องนะ"นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด ยังกล่าวถึงการปฏิรูปโครงสร้างภาษีของประเทศไทยว่า ฐานะการคลังของเรายังทำได้แต่ในอนาคตข้างหน้าถ้าต้องทำหลายๆอย่าง ก็ต้องดูวิธีการ พัฒนาประสิทธิภาพของโครงสร้างภาษี เพราะการมีคนเสียภาษีแค่ 4 ล้านคนจาก 70 ล้านคนยังต่ำเกินไป
นายสมคิด กล่าวว่า เมื่อเช้าผู้บริหารธนาคารโลก (World BanK) ได้มาเข้าพบ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีความน่าสนใจ และพร้อมร่วมมือในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีความเข้มแข็ง เพื่อก้าวสู่นโยบาย 4.0 รวมทั้งการลดความเหลื่อมล้ำ