EU ไฟเขียวอนุมัติ"ธอมสัน"เทคโอเวอร์"รอยเตอร์" ผนึกกำลังชน"บลูมเบิร์ก"

          บริษัทธอมสัน คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการข่าวสารด้านการเงินของแคนาดา ได้รับอนุมัติจากสหภาพยุโรป (อียู) แบบมีเงื่อนไขให้เข้าซื้อกิจการบริษัทรอยเตอร์ซึ่งเป็นคู่แข่ง โดยการทำข้อตกลงครั้งนี้จะเป็นการปูทางสำหรับการจัดตั้งบริษัทผู้ให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านการเงินรายใหญ่ที่สุดของโลก
          คณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นองค์กรกำกับดูแลด้านการผูกขาดของอียู กล่าวในแถลงการณ์ว่า คณะกรรมาธิการได้พิจารณาข้อเสนอเทคโอเวอร์อย่างครบถ้วนแล้ว หลังจากทั้งสองบริษัทตกลงที่จะขายธุรกิจบางส่วนที่มีความซ้ำซ้อนกัน เพื่อขจัดความกังวลด้านการแข่งขัน
          นีลี โครส์ คณะกรรมาธิการด้านการแข่งขันของอียูกล่าวว่า "การควบรวมกิจการของรอยเตอร์และธอมสันยังคงไว้ซึ่งผลิตภัณฑ์ข้อมูลข่าวสารที่สำคัญ ซึ่งทำมั่นใจได้ว่าผู้ใช้บริการข้อมูลด้านการเงินจะไม่ได้รับผลกระทบจากการรวมตัวกันของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสองแห่งนี้"
          ธอมสันและรอยเตอร์เป็นผู้ให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านการเงินแก่ธนาคารพาณิชย์ กองทุนเพื่อการลงทุน และบริษัทบริการด้านการเงินประเภทอื่นๆ โดยธอมสันมีกลุ่มเป้าหมายในตลาดกฎหมาย การคลัง บัญชี และงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ขณะที่รอยเตอร์เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในสำนักข่าวต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด
          ในช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรปได้ดำเนินการตรวจสอบเชิงลึก พบว่า การควบรวมกิจการระหว่าง 2 บริษัทอาจจุดชนวนให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันด้านการรายงานข้อมูลวิจัยของโบรกเกอร์ในตลาด Aftermarket  การประมาณการผลประกอบการ ข้อมูลด้านการเงินของวิสาหกิจที่ประเมินจากปัจจัยพื้นฐาน และข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปดเผยตามกำหนดเวลา อาทิ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
          นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยังพบว่าการทำข้อตกลงเทคโอเวอร์กิจการครั้งนี้จะเป็นการกำจัดคู่แข่งของทั้งสองบริษัทซึ่งมีฐานข้อมูลดังกล่าวในตลาด ส่งผลให้สถาบันการเงินและลูกค้ามีทางเลือกน้อยลง และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นราคาผลิตภัณฑ์
           แต่เพื่อให้ได้รับการอนุมัติ ทั้งสองบริษัทจึงให้คำมั่นสัญญาว่าจะยกเลิกการใช้ฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ข้อมูลข่าวสารด้านการเงินและสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งฐานข้อมูลพนักงานและลูกค้า ออกจากกัน เพื่อส่งเสริมให้มีการแข่งขันต่อไป
          ในระหว่างดำเนินการตรวจสอบนั้น คณะกรรมาธิการยุโรปได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐ 
          การควบรวมกิจการซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 7.9 พันล้านปอนด์ (1.54 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ถือเป็นการผนึกกำลังเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอย่างบลูมเบิร์ก อย่างไรก็ตาม การควบรวมกิจการครั้งนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นและศาลก่อน ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน