นายบรรยง วิเศษมงคลชัย ประธานกรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า บสย. ได้เปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อใหม่ วงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 150,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 8 (PGS 8) ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อได้คล่องตัวขึ้น
สำหรับโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS8 จะช่วยเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้คล่องตัวมากขึ้น ลดการพึ่งพาเงินนอกระบบ ซึ่ง SMEs ถือเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ตอบโจทย์นโยบายรัฐบาล ช่วยกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในประเทศ และในวันนี้ บสย. ยังร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันการเงินทั้ง 18 แห่ง ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น
ด้านนายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการทั่วไป บสย. คาดว่า โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS8 จะช่วย SMEs ให้ได้รับสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 4.3 หมื่นราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินไม่ต่ำกว่า 2.25 แสนล้านบาท และก่อเกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 6.87 แสนล้านบาท และขณะนี้ บสย. พร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และ PGS8 จะช่วยให้ SMEs ได้รับสินเชื่อเพียงพอต่อความต้องการ ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
"ประเทศไทยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 5.2 ล้านราย แต่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้จริงเพียง 10% หรือ 1.2 ล้านรายเท่านั้น ที่เหลืออีกกว่า 4 ล้านราย ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ซึ่งขณะนี้ บสย. พร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจให้ได้รับสินเชื่อเพียงพอต่อความต้องการ" นายรักษ์ กล่าว
สำหรับโครงการค้ำประกัน PGS8 วงเงินรวม 1.5 แสนล้านบาทนั้น บสย.จะค้ำประกันสูงสุด 100 ล้านบาท (รวมทุกสถาบันการเงิน) จากเดิมค้ำประกันสูงสุด 40 ล้านบาท โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม 2 ปี โดยขณะนี้มีวงเงินจัดสรรรอบแรกแล้ว 5.7 แสนล้านบาท สำหรับโครงการ บสย. เอสเอ็มอี ดีแน่นอน วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท ค้ำประกัน 0.2-100 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปี, โครงการ บสย. เอสเอ็มอีบัญชีเดียว วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ค้ำประกัน 0.2-100 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปีแรก ปีที่ 3-4 จ่าย 1%, โครงการ บสย. SMEs Supply Chain Franchise วงเงิน 2 พันล้านบาท ค้ำประกัน 0.2-100 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปี ปีที่ 3 จ่าย 1%, โครงการ SMEs LG วงเงิน 3 พันล้านบาท ค้ำประกัน 0.2-100 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ปี และโครงการ บสย. เอสเอ็มอี สหกรณ์ วงเงิน 2 พันล้านบาท ค้ำประกัน 0.2-100 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ปี
ทั้งนี้ ผลจากการเปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่8 (PGS8) บสย. มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันยอดค้ำประกันในปี 2562 ให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 1 แสนล้านบาท
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า โครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศกว่า 5 ล้านราย ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น เพื่อรักษาสภาพคล่อง รวมถึงการลงทุนในอนาคตด้วย
สำหรับสถาบันการเงิน 18 แห่ง ที่ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS8 ในวันนี้ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (iBank) ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารธนชาต (TBANK) ธนาคารทหารไทย (TMB) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทิสโก้ (TISCO) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMBT) ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ โดยสถาบันการเงินจะเป็นผู้ให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่มีหลักประกัน หรือหลักประกันไม่เพียงพอ และ บสย.จะให้การค้ำประกันสินเชื่อนั้น