นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า เตรียมเสนอให้รัฐบาลพิจารณาปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 25% จากที่จัดเก็บอยู่ 30% เพื่อช่วยสนับสนุนให้ภาคธุรกิจสามารถขยายการลงทุนและลดต้นทุนการผลิตได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาครัฐในการจัดเก็บภาษีในระยะยาว เนื่องจากภาคเอกชนจะมีผลประกอบการเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถชำระภาษีมากขึ้น
นอกจากนี้ต้องการเห็นอัตราดอกเบี้ยของประเทศอยู่ในระดับต่ำหรือใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลก ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ควรปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.5-1% เพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการลดลง และการปรับอัตราดอกเบี้ยควรให้มีความสมดุลกับอัตราเงินเฟ้อของประเทศด้วย
นายอดิศักดิ์ แสดงความพอใจต่อนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา เพราะหลายเรื่องเป็นสิ่งที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการอยู่แล้ว ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการกระตุ้นการบริโภคและกำลังซื้อในระดับรากหญ้า โครงการเมกกะโปรเจกส์ รวมถึงการส่งเสริมให้ปี 51 เป็นปีแห่งการลงทุนซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้
"ภาคเอกชนต้องการเห็นนโยบายของรัฐบาลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพราะหากสามารถดำเนินนโยบายตามที่ประกาศไว้ได้จริง ความเชื่อมั่นจะกลับมาฟื้นกลับคืนมา" นายอดิศักดิ์ กล่าว
ส่วนนโยบายการปรับลดราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์นั้น หากภาครัฐให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยการดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมัน ลดดอกเบี้ยลง และควบคุมราคาวัตถุดิบไม่ให้สูงจนเกินไป ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญต่อการผลิตสินค้าก็เชื่อว่าผู้ประกอบการพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการตรึงราคาสินค้า และมั่นใจว่าในสถานการณ์ปกติผู้ประกอบการไม่สามารถค้ากำไรเกินควรได้ ยกเว้นจะมีความต้องการซื้อและกำลังผลิตไม่สมดุลกัน
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/กษมาพร/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--