รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมตามปกติ โดยวาระการพิจารณาสำคัญวันนี้ ได้แก่ กระทรวงคมนาคม เสนอขอแก้ไขและทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเดิม เพื่อให้อำนาจผู้ดำเนินการเรื่องค่าชดเชยค่าทางด่วนแก่เอกชน เป็นของกระทรวงคมนาคมโดยตรงจากเดิมมอบให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแล
กระทรวงการคลัง จะเสนอครม.พิจารณาให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจการท่องเที่ยว อาทิ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายอัญมณีและเครื่องประดับ ธุรกิจสปา ธุรกิจเช่ารถ และธุรกิจนำเที่ยว เข้าร่วมรับชำระในมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ชิม ช็อป ใช้ 1,000 บาท และมาตรการคืนเงินสด 15% จากผู้เข้าร่วม 10 ล้านคนได้ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมามาตรการดังกล่าวกำหนดไว้แค่ ร้านขายสินค้า OTOP ธุรกิจพื้นเมือง ร้านอาหารและโรงแรมที่พัก
นอกจากนี้ ต้องลุ้นว่ากระทรวงการคลัง จะเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาขยายเวลาคงภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ต่อไปอีก หลังจากที่จะสิ้นสุดภายใน 30 ก.ย.นี้
กระทรวงพลังงาน เสนอร่างพระราชกฤษฎีกายุบเลิกสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน
กระทรวงพาณิชย์ เสนอเรื่องเพื่อทราบ รัฐบาลฟิลิปปินส์แจ้งไม่ต่ออายุบันทึกความตกลงว่าด้วยการซื้อขายข้าว ระหว่างรัฐบาลไทย และ รัฐบาลฟิลิปปินส์
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เรื่อง แนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย
กรมประชาสัมพันธ์ เสนอขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันก่อนได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณ และ ผูกพันสัญญาเกิน 5 ปี ค่าเช่าที่ดนิวัดหัวมีนา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และ สถานทีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช
ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เสนอโครงสร้างและอัตรากำลัง ของ ศรชล.
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เสนอปรับปรุงแก้ไขการจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน อำนาจหน้าที่ของส่วนงาน และ อัตรากำลังพลของ กอ.รมน.
นอกจากนี้ ครม.เตรียมพิจารณาแพ็คเกจ Thailand Plus ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เพื่อกระตุ้นและเร่งรัดการลงทุน 7 ด้าน ทั้งมาตรการภาษี การพัฒนาบุคลากร ปรับปรุงกฎระเบียบด้านการลงทุน และเร่งรัดให้ได้ข้อสรุปเรื่องการเจรจาเอฟทีเอ พร้อมทำตลาดเชิงรุก