ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งว่า สืบเนื่องจากกรณีที่พื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยเป็นหลัก กำลังประสบสาธารณภัยในปัจจุบัน ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนเป็นวงกว้าง โดยมีหลายจังหวัดได้ถูกรายงานเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย ตามเอกสารเผยแพร่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยนั้น
ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงขอความร่วมมือให้สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่มิใช่สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สถาบันการเงิน และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับที่มิใช่สถาบันการเงิน (สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ) พิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยดังกล่าวตามความจำเป็นและความเหมาะสม โดยมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
1. การให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อม
1.1 ดูแลและพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและสภาพคล่องแก่ลูกหนี้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เช่น ให้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม ลดหรือยกเว้นดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียม ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้
1.2 พิจารณาปรับลดอัตราการผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำ สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบให้ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของยอดคงค้างจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563
1.3 พิจารณาผ่อนผันหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดวงเงินชั่วคราวกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพของสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ โดยให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับตามความเหมาะสม จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563
2. เงื่อนไขในการผ่อนปรนและการรายงานการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมตามข้อ 1. ให้ถือปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังนี้
2.1 ต้องมีนโยบายการให้ความช่วยเหลือและแนวทางการพิจารณาลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยอย่างชัดเจน
2.2 ต้องสามารถพิสูจน์หรือเชื่อมโยงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกหนี้แต่ละรายได้
2.3 ในกรณีที่สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นบริษัทลูกในกลุ่ม Solo Consolidation ของสถาบันการเงินตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การกำกับดูแลโครงสร้างและขอบเขตธุรกิจของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นหนี้ปกติหรือกล่าวถึงเป็นพิเศษที่ได้รับผลกระทบ เช่น การให้สินเชื่อใหม่ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ การลดเงินต้นหรือดอกเบี้ย หรือการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ (Reschedule) ซึ่งครอบคลุมถึงการผ่อนผันการชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ย และการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ เป็นต้น แก่ลูกหนี้ดังกล่าวให้ถือว่า
(1) สามารถคงสถานะจัดชั้นสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือไว้ตามเดิมก่อนเกิดเหตุสาธารณภัย
(2) มาตรการในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ข้างต้นเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ทั่วไปตามแนวนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
2.4 รายงานยอดสินเชื่อคงค้างของลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือตามแบบรายงานที่กำหนด สำหรับงวดสิ้นเดือนกันยายน 2562 ถึง สิ้นเดือนมีนาคม 2563 โดยให้จัดเก็บไว้ที่สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อให้ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถตรวจสอบได้