นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งทำให้ปริมาณข้าวเปลือกเหนียวออกสู่ตลาดลดลง ส่งผลให้ราคาข้าวเหนียวปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. 62 กระทบต่อผู้ประกอบการค้าข้าวและผู้บริโภค โดยราคาข้าวเปลือกเหนียวปี 61 เฉลี่ยที่ 9,549 บาท/ตัน และปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 17,920 บาท/ตัน ณ วันที่ 10 ก.ย.62 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 81.01% (ณ 10 ก.ย.61: ราคา 9,000-10,800 บาท/ตัน) ราคาข้าวสารเหนียวปี 61 เฉลี่ยที่ 19,610 บาท/ตัน และปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 41,050 บาท/ตัน ณ วันที่ 10 ก.ย.62 โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 111.06% (ณ 10 ก.ย.61 : ราคา 19,400-19,500 บาท/ตัน) ราคาขายปลีก ณ ตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑล ราคา 44-45 บาท/กิโลกรัม โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 23-24 บาท/กิโลกรัม
โดยสาเหตุที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ในปี 60 ข้าวเหนียวมีราคาต่ำ เกษตรกรหันไปปลูกข้าวหอมมะลิ และภัยแล้งที่ต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลผลิตข้าวเหนียวลดลงทั้งนาปีและนาปรัง ประกอบกับเป็นช่วงรอยต่อของฤดูกาล ข้าวเก่ามีปริมาณเหลือน้อย ข้าวใหม่ยังไม่ถึงช่วงเก็บเกี่ยว และภาครัฐระบายข้าวในสต็อกหมดแล้ว ข้าวเหนียวจึงขาดแคลน
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จึงได้ดำเนิน "โครงการลดภาระค่าครองชีพผู้บริโภคข้าวเหนียว" โดยกำหนดผลิตข้าวเหนียวบรรจุถุงราคาพิเศษจำหน่ายให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งกรมการค้าภายในได้หารือร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย ผู้ประกอบการโรงสี และผู้แทนห้างโมเดิร์นเทรด ดำเนินการจำหน่ายข้าวเหนียวบรรจุถุงราคาพิเศษ
ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากสมาคมโรงสีข้าวไทย เพื่อผลิตเป็นข้าวสารเหนียว 10% บรรจุถุง คุณภาพตามมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ ขนาด 2 กิโลกรัม ราคาถุงละ 70 บาท (กิโลกรัมละ 35 บาท) และขนาด 5 กิโลกรัม ราคาถุงละ 160 บาท (กิโลกรัมละ 32 บาท) ผ่านร้านธงฟ้าราคาประหยัดเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และโมเดิร์นเทรด เป้าหมายการผลิต 1,000 - 3,000 ตัน
รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ยกเว้นภาคใต้ รวบรวมคำสั่งซื้อตามโครงการฯ จากร้านค้าธงฟ้าฯ โดยกำหนดยอดคำสั่งซื้อแต่ละร้านขั้นต่ำ 100 กิโลกรัม ยอดคำสั่งซื้อรวม ณ วันที่ 9 กันยายน 2562 จาก 59 จังหวัด 1,493 ร้านค้า รวมทั้งสิ้น 261,083 ถุง ปริมาณ 977.134 ตัน แบ่งเป็น ขนาดบรรจุ 2 กิโลกรัม จำนวน 109,427 ถุง ปริมาณ 218.854 ตัน และขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัม จำนวน 151,656 ถุง ปริมาณ 758.280 ตัน โดยในเบื้องต้นจะทยอยส่งข้าวสารเหนียวบรรจุถุง 300 ตัน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และจะทยอยส่งให้ครบถ้วน 1,000 ตัน ภายในสิ้นเดือนนี้
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการกักตุน จึงจำกัดให้ประชาชนซื้อถุงละ 5 กิโลกรัม ไม่เกินคนละ 1 ถุง หรือ ถุงละ 2 กิโลกรัม ไม่เกินคนละ 3 ถุง ซึ่งประชาชนสามารถซื้อผ่านร้านธงฟ้าราคาประหยัดเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยไม่ต้องใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และซื้อผ่านห้างโมเดิร์นเทรด แต่ต้องใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ