นักวิเคราะห์คาด CPIสิงคโปร์เดือนม.ค.พุ่งสูงในรอบหลายปีจากราคาอาหารแพง

          นักวิเคราะห์จากหลายสำนักคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสิงคโปร์ในเดือนม.ค.มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี จากต้นทุนด้านอาหารและการขนส่งที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การปรับขึ้นภาษีสินค้าและบริการ 2% ซึ่งมีผลมาตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา ก็อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นราคาผู้บริโภคให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
          นักวิเคราะห์ 4 รายจากโพลล์ของสำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์ในเดือนม.ค.จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 4.5-5.6% ต่อปี และอาจขยับขึ้น 0.3-0.8% จากระดับในเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 25 ปีที่ 4.4%
          ทั้งนี้ สำนักงานสถิติจะรายงานดัชนี CPI ในวันจันทร์ที่ 25 ก.พ.นี้       
          เซเลนา หลิง นักวิเคราะห์จากโอเวอร์ซี-ไชนีส แบงกิ้ง คอร์ปกล่าวว่า "อัตราเงินเฟ้อในสิงคโปร์น่าจะยังทรงตัวสูงต่อเนื่องไปอีกสักระยะหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงก่อนหน้าเทศกาลตรุษจีน ซึ่งอยู่ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์"
          "สิงคโปร์ต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านราคาอาหารอย่างหนัก ขณะที่จีนก็ได้รับผลกระทบรุนแรงเช่นกัน" วิชนู วาราธาน นักวิเคราะห์จาก Forecastกล่าว "ราคาอาหารในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นไม่มีทีท่าว่าจะปรับลดลง ซึ่งภาวะดังกล่าวเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในประเทศ"
           ด้านอัลวิน เลียว นักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์ในเดือนที่ผ่านมาอาจอยู่ที่ระดับ 5.5% เมื่อพิจารณาจากยอดชำระเงินภาษีอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่มีการทบทวนมูลค่าในตลาดอสังหาริมทรัพย์ประจำปี 
          ทั้งนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ยอมรับว่า สิงคโปร์กำลังเผชิญแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่กระทบต่อเศรษฐกิจมากขึ้น จนส่งผลให้ทางการปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้ขึ้นมาอยู่ที่ 4.5-5.5% จากระดับ 3.5-4.5% โดยอัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยของสิงคโปร์เมื่อปีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 2.1%