นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้ศึกษาผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรี(FTA) ที่ไทยทำกับประเทศต่างๆ ตามนโยบายของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เสร็จแล้ว และจะชี้แจงให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อให้ใช้ประโยชน์จากแต่ละข้อตกลงให้มากขึ้น
สำหรับข้อตกลงที่ผู้ประกอบการไทยควรจะเร่งใช้ประโยชน์คือ ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับไทยมาก เพราะญี่ปุ่นได้ยกเลิกภาษีนำเข้าทันทีในสินค้าจำนวนมาก บางสินค้าให้โควตานำเข้าเพิ่มขึ้นและยังมีการให้ความร่วมมือในด้านต่างๆ อีกมากถึง 7 โครงการ
สำหรับ FTAไทย-จีน ได้มีการลดภาษีในสินค้าเกษตรพิกัดอัตราภาษีศุลกากร 01-08 แล้ว และล่าสุดได้เปิดเสรีเพิ่มเติมอีกภายใต้ FTA อาเซียน-จีน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.48 ในสินค้ากว่า 5,000 รายการ ซึ่งครอบคลุมสินค้าส่งออกทั้งหมดของไทย
ส่วน FTA ที่เหลือ เช่น ไทย-อินเดีย ได้เปิดเสรีนำร่องไปแล้วในสินค้า 82 รายการตั้งแต่วันที่ 1ก.ย.47 สินค้าที่ไทยได้ประโยชน์ เช่น เงาะ ,ลำไย, มังคุด, ทุเรียน, องุ่น, ข้าวสาลี, อาหารทะเลกระป๋อง และสินค้าอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออก เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ, เม็ดพลาสติก, เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์
ขณะที่ FTA ไทย-ออสเตรเลีย เปิดเสรีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.48 สินค้าสำคัญที่ไทยจะได้ประโยชน์ เช่น ผักและผลไม้สด,สับปะรดกระป๋องและน้ำสับปะรด, อาหารสำเร็จรูป, กระดาษ, อัญมณีและเครื่องประดับ, รถยนต์ขนาดเล็กและรถปิกอัพ
FTA ไทย-นิวซีแลนด์ เปิดเสรีตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.48 สินค้าที่ไทยจะได้ประโยชน์ เช่น รถปิกอัพ, กุ้งแช่แข็ง, ปลาทูน่ากระป๋อง, อาหารทะเลกระป๋อง, เม็ดพลาสติก พลาสติกและของทำจากพลาสติก, เฟอร์นิเจอร์, ของปรุงแต่งจากธัญพืช, อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--