นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยถึงว่า กรณีที่ Crude Oil Processing Facility หรือ โรงงานที่ทำหน้าที่กำจัดสารต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการ เหมือนกระบวนการทำความสะอาดออกจากน้ำมันดิบ ก่อนส่งต่อไปยังผู้ซื้อ ของบริษัท Aramco (อารามโค) รัฐวิสาหกิจน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบียถูกโจมตีนั้น ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้รับทราบสถานการณ์แล้ว โดยเบื้องต้นได้ประสานสอบถามไปยังบริษัท อารามโค และผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ ถึงผลกระทบในเบื้องต้นทราบความคืบหน้าล่าสุดว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมได้ และอยู่ระหว่างสำรวจและประเมินความเสียหาย
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวยังไม่มีผลกระทบต่อการส่งออก เพราะโรงงานที่ถูกไฟไหม้อยู่ในบริเวณทะเลทรายจึงไม่มีผลกระทบต่อคลังน้ำมันที่เป็นแหล่งน้ำมันที่ป้อนให้กับทางกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) จึงยังไม่กระทบต่อการนำเข้าน้ำมันของไทย
อย่างไรก็ดีกระทรวงพลังงานมีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินไว้เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกับกรณีที่เคยเกิดเหตุการณ์ที่ช่องแคบฮอร์มุซ โดยในภาพรวมประเทศมีปริมาณสำรองคงเหลือเพียงพอทั้งน้ำมันดิบสำรอง น้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างการขนส่ง และน้ำมันสำเร็จรูป โดยจะไม่เกิดการขาดแคลนในระยะสั้นหากเกิดผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย และจากนี้ไปกระทรวงพลังงานจะมีการเรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์และติดตามอย่างใกล้ชิด