(เพิ่มเติม) รมว.พลังงาน เรียกประชุม กบง.ด่วนพรุ่งนี้ ถกมาตรการป้องกันผลกระทบปชช.หวั่นน้ำมันพุ่งจากเหตุโจมตีแหล่งผลิตในซาอุฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 16, 2019 16:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงกรณีเหตุโจมตีโรงงานสองแห่งในพื้นที่ผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จนทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน และในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) จะนัดประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เป็นวาระพิเศษเพื่อร่วมหารือมาตรการป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อค่าครองชีพของประชาชนต่อไป

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวจุดที่ถูกโจมตีไม่ได้เป็นที่ตั้งโรงกลั่นน้ำมัน แต่เป็น Crude Oil Processing Facility หรือ โรงงานที่ทำหน้าที่กำจัดสารต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการ เป็นเหมือนกระบวนการทำความสะอาด ออกจากน้ำมันดิบ ก่อนส่งต่อไปยังผู้ซื้อของบริษัท Aramco (อารามโค) และถึงแม้ว่าสถานการณ์จะอยู่ในความควบคุมได้แล้วก็ตาม แต่กระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนไม่ให้เกิดความวิตกกังวล

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานได้เตรียมการเพื่อรับมือสถานการณ์ดังนี้ ด้าน Supply โดยการบริหารจัดการด้าน Supply หรือการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิง ประเทศไทยพึ่งพาการนำเข้าจากประเทศซาอุดีอาระเบียประมาณ 170,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่น่ากังวล เพราะหากไม่สามารถนำเข้าจากซาอุดีอาระเบียได้ตามปริมาณดังกล่าวก็สามารถกระจายการนำเข้าจากแหล่งอื่นได้

ด้านปริมาณสำรอง ปัจจุบัน ณ วันที่ 16 ก.ย.62 ไทยมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบประมาณ 3,366 ล้านลิตร ปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่งอีก 1,193 ล้านลิตร น้ำมันสำเร็จรูป 1,848 ล้านลิตร รวมจำนวนวันที่สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ทั้งหมด 54 วัน ส่วนปริมาณสำรองก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือนมีประมาณ 131 ล้านกิโลกรัม สำรองได้ 23 วัน แต่หากรวมการใช้ LPG ของภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่งแล้วจะทำให้จำนวนวันสำรองที่ใช้ LPG ได้อยู่ที่ 12 วัน

ด้านราคาได้มีการประเมินเบื้องต้นโดยทำแบบจำลองสถานการณ์ไว้ว่า หากสถานการณ์ยืดเยื้ออยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ จะทำให้อัตราราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หากยืดเยื้อราว 2-6 สัปดาห์ ราคาจะปรับขึ้น 5-15 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

"ในส่วนของการบริหารจัดการด้านราคาซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือการควบคุมนั้น ทางกระทรวงพลังงานได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งผลกระทบด้านราคาน้ำมันดังกล่าวเป็นการประเมินในเบื้องต้น โดยพรุ่งนี้ จะนัดประชุม กบง.เป็นวาระพิเศษ เพื่อร่วมหารือมาตรการป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อค่าครองชีพของประชาชนต่อไป"นายสนธิรัตน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม รมว.พลังงาน กล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันดิบในตลาด และจะไม่เกิดการขาดแคลนแน่นอน แต่จะได้รับผลกระทบในแง่ของราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 12% หรือคิดเป็นประมาณ 6-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศประมาณ 1 บาท/ลิตร ซึ่งกระทรวงพลังงานเตรียมหารือในที่ประชุม กบง. ด้านการบริหารจัดการ โดยยังมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกลไกในการดูแลราคา ซึ่งปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯอยู่ที่กว่า 3.9 หมื่นล้านบาท และในวันที่ 19 ก.ย.นี้ กระทรวงพลังงานเตรียมซ้อมแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ด้านนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า โรงกลั่นบางจากไม่ได้นำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง แต่เป็นการซื้อจากในประเทศ และมาเลเซีย ดังนั้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่มีผลกระทบด้านจัดหาน้ำมันของบริษัท แต่ด้านราคาเชื่อว่าจะได้รับผลกระทบแน่นอน ส่วนจะมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับซาอุดีอาระเบียจะกลับมาส่งออกได้เร็วเพียงใด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกมีมาก และหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ก็พร้อมนำน้ำมันสำรองขึ้นมาใช้ ดังนั้น ราคาน้ำมันดิบแม้จะปรับตัวสูงขึ้นแต่เชื่อว่าไม่มากนัก ทำให้ภาพรวมราคาน้ำมันอยู่ในระดับไม่ต่ำมาก เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการจัดการความเสี่ยงของซาอุดีอาระเบีย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ