ดอลล์อ่อนค่าที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ ขณะนลท.วิตกเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย

ข่าวต่างประเทศ Friday February 22, 2008 09:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์สเตอริงที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้าวันนี้ (22 ก.พ.) โดยเงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ทางการสหรัฐรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งส่งสัญญานว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตในเดือนก.พ.ร่วงลงหนักกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจในเดือนม.ค.ที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในเขตประเทศทวีปยุโรปจะขยายตัวเร็วกว่าสหรัฐ
โดยอียูได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 1.8% จากเดิมที่ 2.2% ซึ่งตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวยังคงแข็งแกร่งกว่าสหรัฐซึ่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอยู่ที่ 1.25%
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 05.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ 1.4822 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4814 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลานิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่เงินปอนด์สเตอริงซื้อขายกันที่ 1.9633 ดอลลาร์ต่อปอนด์ เมื่อเทียบกับระดับ 1.9625 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเยนที่ 107.335 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 107.27 เยนต่อดอลลาร์เมื่อคืนนี้
สกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.7991 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7980 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้
การที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยนักวิเคราะห์คาดว่าแนวต้านของดอลลาร์นิวซีแลนด์จะตรึงอยู่ที่ 0.8020-0.8050 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซาได้จุดกระแสคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในที่ประชุมเดือนมี.ค. โดยขณะนี้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 3.0% หลังจากที่เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.25% ไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา
จอห์น ไคเรียคูพูลอส นักวิเคราะห์จากเอ็นเอบี แคปิตอลกล่าวว่า "อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐมีมูลค่าลดลง เนื่องจากเทรดเดอร์คาดว่าอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐจะลดลงมาอยู่ที่ 2% ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในเขตประเทศทวีปยุโรป อังกฤษ และญี่ปุ่นต่างปรับตัวสูงขึ้นกันถ้วนหน้า ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเหล่านี้"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ