น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ดำเนินโครงการเพื่อการพัฒนาปี 2561 ก่อสร้างปรับปรุงและขยายเพื่อแก้ปัญหาในระบบผลิตและการจ่ายน้ำประปา ทั้งการขาดแคลนน้ำดิบ ระบบผลิตชำรุด กำลังการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ ระบบจ่ายน้ำไม่มีประสิทธิภาพสาเหตุจากท่อเล็ก ท่อเก่าหมดอายุการใช้งาน รวม 6 โครงการ วงเงินจำนวน 11,026.952 ล้านบาท ซึ่งมาจากเงินอุดหนุนรัฐบาล จำนวน 7,332.691 ล้านบาท (66.50%) เงินกู้ภายในประเทศจำนวน 2,444.230 ล้านบาท (22.17%) และเงินรายได้ของ กปภ. จำนวน 1,250.031 ล้านบาท (11.33%) ได้แก่
1.สาขาบ้านฉาง (รองรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก : EEC) ก่อสร้างโรงสูบน้ำดิบและสถานีผลิต-จ่ายน้ำ วางท่อส่งน้ำ วงเงิน 1,736.009 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำดิบและกำลังผลิตใกล้เต็มศักยภาพ
2.สาขาพังงา-ภูเก็ต ปรับปรุงเพิ่มความจุสระพักน้ำดิบ ก่อสร้างโรงสูบน้ำดิบและสถานีผลิต-จ่ายน้ำ วางท่อส่งน้ำ วงเงิน 3,870.908 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำดิบและกำลังผลิตไม่เพียงพอ
3.สาขาอุดรธานี-หนองคาย-หนองบัวลำภู ก่อสร้างโรงสูบน้ำดิบและสถานีผลิต-จ่ายน้ำ วางท่อส่งน้ำ วงเงิน 2,506.798 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหากำลังผลิตไม่เพียงพอ
4.สาขาแม่สาย-ห้วยไคร้-แม่จัน-เชียงแสน ก่อสร้างโรงสูบน้ำน้ำดิบและสถานีผลิต-จ่ายน้ำ วางท่อส่งน้ำ วงเงิน 1,085.807 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหากำลังผลิตไม่เพียงพอ เนื่องจากประกาศเป็นพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ
5.สาขานครศรีธรรมราช ก่อสร้างโรงสูบน้ำน้ำดิบ รางชักน้ำ และสถานีผลิต-จ่ายน้ำ วางท่อส่งน้ำ วงเงิน 1,471.109 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหากำลังผลิตใกล้เต็มศักยภาพ
6.สาขากันตัง-สิเกา-ปากเมง ก่อสร้างโรงสูบน้ำน้ำดิบและสถานีผลิต-จ่ายน้ำ วางท่อส่งน้ำ วงเงิน 356.321 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหากำลังผลิตไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จพร้อมใช้งานประมาณปี 2564 จะสามารถให้บริการผู้ใช้น้ำประปาเพิ่มขึ้นอีก 239,618 ราย มีกำลังการผลิตน้ำเพิ่มขึ้น 332,400 ลบ.ม./วัน จ่ายน้ำผ่านท่อใหม่ในเขตจ่ายน้ำและพื้นที่ข้างเคียงรวมความยาวทั้งสิ้นประมาณ 1,727.402 กิโลเมตร