สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ชี้แจงประเด็นข้อเท็จจริง เรื่องการเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของรัฐบาล โดยระบุว่า ภาครัฐมีวงเงินทดรองราชการสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินได้อย่างเพียงพอและทันท่วงที โดยตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจจัดสรรเงินทดรองราชการจังหวัดละ 20 ล้านบาทได้
อีกทั้งปัจจุบัน พื้นที่หลายแห่งได้ถูกประกาศเป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และส่วนราชการต่างๆ ได้เร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำรงชีพ การซ่อมแซมที่พักอาศัย การให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์แล้ว เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่เกษตรกร, สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ขอความร่วมมือสมาคมประกันวินาศภัยไทย และสมาคมประกันชีวิตไทย ให้เร่งรัดพิจารณาสินไหมทดแทน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน, สถาบันการเงินของรัฐและธนาคารพาณิชย์ ได้ออกมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกค้า และเตรียมเงินกู้ฉุกเฉินเพื่อใช้ในยามจำเป็นให้กับผู้ประสบภัยไว้แล้ว
สำหรับการจัดรายการพิเศษเพื่อรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยของรัฐบาลนั้น เป็นความร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยเงินที่ได้รับบริจาคจะนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบและผู้ประสบภัยเพิ่มเติมจากความช่วยเหลือที่ภาครัฐได้ดำเนินการในขั้นต้นแล้ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถมีส่วนรวมในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย และเอื้อเฟื้อแบ่งปันกันในสังคม
"การจัดรายการพิเศษดังกล่าว มิใช่มาจากสาเหตุที่กระทรวงการคลังไม่มีงบประมาณช่วยเหลือ โดยปัจจุบัน ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2562 รัฐบาลมีเงินคงคลังอยู่ที่ 512,274 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล" รายงานข่าวระบุ