นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เตรียมจะเดินทางไปร่วมงานแสดงสินค้าจีน - อาเซียน (China - ASEAN EXPO) ครั้งที่ 16 ในวันที่ 20 กันยายน 2562 โดยจะใช้โอกาสนี้พบหารือกับนายหาน เจิ้ง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งดูแลภาพรวมเศรษฐกิจของจีน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมความร่วมมือการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปจีน เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และผลไม้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังเตรียมนำผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าเกษตรของไทย ร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้า China - ASEAN EXPO เพื่อศึกษาตลาดและเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายการส่งออกไปยังจีนอีกด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันจีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญของสินค้าเกษตรไทย จีนนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งเป็นผลจากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - จีน ที่ลดภาษีสินค้าเหลือ 0 ได้กว่า 90% รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและเครือข่ายทางธุรกิจทั้งในไทย จีน และประเทศอาเซียน ให้กับภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายมาอย่างต่อเนื่อง
นางอรมน กล่าวว่า สำหรับงาน China - ASEAN EXPO จัดขึ้นที่มณฑลกว่างซี เนื่องจากกว่างซีเป็นประตูเชื่อมอาเซียนและจีน เพราะเป็นมณฑลเดียวของจีนที่มีพรมแดนติดกับอาเซียนทั้งทางบก ทะเล และอากาศ และที่สำคัญยังเป็นช่องทางหลักในการขนส่งสินค้าเกษตรของไทยไปจีน โดยครึ่งหนึ่งของผลไม้จากอาเซียนในตลาดจีนเป็นการนำเข้าผ่านกว่างซี
โดยปีที่ 2561 ผ่านมา ไทยส่งออกผลไม้ไปยังจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การส่งออกผลไม้ไทยไปจีนในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่ารวมกว่า 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับภาพรวมการค้าระหว่างไทยกับจีนในปี 2562 (ม.ค.-ก.ค.) การค้าสองฝ่ายมีมูลค่ารวม 44,900 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีน มูลค่า 16,300 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้าจากจีนมาไทย มูลค่า 28,600 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปยังจีน เช่น เม็ดพลาสติก, ผลิตภัณฑ์ยาง, ผลไม้สดและแช่แข็ง, เคมีภัณฑ์, เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ, ยางพารา และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นต้น ส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญของไทยจากจีน เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน, เคมีภัณฑ์, เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ, เหล็ก, เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์, และส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เป็นต้น