ญี่ปุ่นเผยยอดขาดดุลการค้าเดือนม.ค.ปี 51 เพิ่มแตะ 7.934 หมื่นล้านเยน

ข่าวต่างประเทศ Friday February 22, 2008 10:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 7.934 หมื่นล้านเยนในเดือนม.ค.ปี 2551 จากระดับ 3.49 พันล้านเยนในปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อยอดนำเข้า ขณะที่ยอดส่งออกไปยังสหรัฐปรับตัวลดลงต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 5
นอกจากนี้ วันทำงานตามปฏิทินก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อดุลการค้า โดยมีแนวโน้มว่ายอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นจะลดลงในเดือนม.ค.อันเป็นผลมาจากวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.-3 ม.ค.
ยอดขาดดุลการค้าในเดือนม.ค.2551 พุ่งขึ้นสูงสุด นับตั้งแต่เดือนม.ค.2549 ที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 3.944 แสนล้านเยน และสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่ายอดขาดดุลการค้าจะอยู่ที่ 5.6 พันล้านเยน
ยอดนำเข้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 9.0% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.49 ล้านล้านเยน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยพุ่งขึ้น 50.3% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 90.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่เคยพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 90.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเดือนธ.ค.ของปีที่แล้ว
ยอดนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพิ่มขึ้น 29.8% ส่งผลให้ยอดนำเข้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 1.3% และยอดนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) พุ่งขึ้น 62.3% ส่งผลให้ยอดนำเข้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.9%
มูลค่าส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.7% แตะระดับ 6.41 ล้านล้านเยน นับเป็นสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 50 เนื่องจากยอดส่งออกรถยนต์ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และชิ้นส่วนยานยนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณส่งออกโดยรวมเพิ่มขึ้น 10.3% นับเป็นสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 10
กระทรวงการคลังกล่าวว่า ยอดขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากแข็งค่าขึ้นของค่าเงินเยน ซึ่งส่งผลให้มูลค่าส่งออกลดลง ค่าเงินดอลลาร์แตะระดับโดยเฉลี่ยที่ 110.68 เยนต่อดอลลาร์ ลดลงจากระดับ 119.16 เยนต่อดอลลาร์ในปีก่อนหน้านี้ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ