สิงคโปร์คาดตลาดอสังหาฯอาจฟื้นตัวขึ้นครึ่งหลังปี 51 หลังครึ่งปีแรกซบเซา

ข่าวต่างประเทศ Friday February 22, 2008 11:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ไซม่อน ชอง ประธานสมาคมผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์ (REDAS) คาดการณ์ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์จะยังคงซบเซาลงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดเงิน แต่อาจฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
นายชองกล่าวต่อสมาชิก REDAS ว่า ความผันผวนในตลาดเงินที่เกิดขึ้นจากวิกฤตการณ์ซับไพรม์ในสหรัฐกำลังส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ และอาจต้องใช้เวลาสักระยะกว่าที่ปัญหาดังกล่าวจะคลี่คลายลง
อย่างไรก็ตาม เขามีมุมมองที่เป็นบวกว่า จากอัตราดอกเบี้ยของสิงคโปร์ที่ยังคงต่ำกว่าระดับ 2% อาจช่วยให้ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ค่อยๆปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มียอดขายบ้านสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2550 โดยขายได้กว่า 14,000 หลัง แต่ความต้องการที่ลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลได้ยกเลิกแผนให้ผู้ซื้อบ้านผ่อนผันการจ่ายเงินขั้นต้นสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างในเดือนต.ค.นั้น ส่งผลให้ยอดขายบ้านใหม่ลดลงแตะ 1,397 หลังในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2550 จากระดับ 3,367 หลังในช่วงไตรมาส 3
ในปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลง โดยบรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สามารถขายบ้านได้เพียง 396 หลังในเดือนม.ค.ปี 2551
"ในปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลง แต่เรามีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของสิงคโปร์ยังคงแข็งแกร่ง" เกรซ ฟู รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาแห่งชาติสิงคโปร์ซึ่งได้เข้าร่วมการประชุมของ REDAS กล่าว
นายชวงกล่าวว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวยังคงเป็นไปในทิศทางบวก และยังได้รับปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินที่ไหลเข้าจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง แต่แนวโน้มในระยะสั้นยังคงน่าวิตก เนื่องจากกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้ระงับการเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮ-เอนด์
ทั้งนี้ ความต้องการสำนักงานและโรงแรมปรับตัวอย่างแข็งแกร่งในปีที่แล้ว โดยมีอัตราการจองสำนักงานที่ระดับ 92% และการจองโรงแรงอยู่ที่ 87% สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ