นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยืนยันว่านโยบายเรื่องใช้เศษสตางค์แก้ปัญหาเศรษฐกิจทำได้จริง ไม่ใช่เพียงหวังผลทางจิตวิทยา เนื่องจากได้ชี้แจงไปชัดเจนแล้ว โดยยกตัวอย่างกรณีที่แม่ค้าซื้อกับข้าวแพงขึ้นเพียง 50 บาทแต่คิดราคาขายอาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นมากกว่า และได้กำไรถึง 500 บาท
"ผมยืนยันว่าเป็นเรื่องที่แก้ปัญหาได้จริง ไม่ใช่แค่หวังผลทางจิตวิทยา ผมผิดเองไม่ได้อธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจน"นายสมัคร กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ปัญหาราคาสินค้า ต้องพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นราคาอย่างเป็นธรรม ตัวอย่างเห็นได้จากราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับขึ้นไปถึง 49 บาท/ลิตร จากก่อนหน้าอยู่ที่ 29 บาท/ลิตร ถือว่าเป็นการปรับขึ้นราคาอย่างก้าวกระโดด ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลก็จะต้องเอาใจใส่ว่าต้นทุนที่แท้จริงของสินค้าและเหตุผลการปรับขึ้นราคาอย่างก้าวกระโดด แต่หากเป็นการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารของรถเมล์เพียง 1-2 บาท/ครั้ง ก็จะถูกต่อต้านอย่างรุนแรง ต่างกับราคาอาหารที่ปรับขึ้น 5 บาท/ครั้ง
ส่วนกรณีเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 และจากที่นายเทพไท เสนพงษ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำภาพถ่ายออกมาหลักฐานเพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ระหว่างนายสมัคร กับจอมพลถนอม กิตติขจร และ จอมพลประภาส จารุเสถียร นั้น นายสมัคร กล่าวว่า ได้บอกชัดเจนว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก เรื่องนี้ผ่านไป 31 ปีแล้ว จำไม่ได้ว่าขณะนั้นทำไมถึงได้ให้สัมภาษณ์ไปอย่างนั้น แต่คิดว่าเรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนตัว ไม่เข้าใจทำไม่ยังมีการขุดคุ้ยเรื่องนี้ พร้อมยืนยันไม่ตอบคำถามเรื่องดังกล่าวอีก
นายกรัฐมนตรี ยังเปิดโอกาสให้ข้าราชการที่ได้รับผลกระทบจากการรัฐบาลชุดก่อนที่เข้ามาตรวจสอบคดีทุจริตต่างๆ ให้สามารถทำหนังสือร้องเรียนมาได้ที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยรับปากว่าจะช่วยเหลือเยียวยาให้ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีข้าราชการบางคนทำหนังสือร้องเรียนเข้ามาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐบาลชุดก่อน เช่น การถูกโยกย้ายตำแหน่ง
"รัฐบาลชุดนี้พร้อมจะเยียวยาตามสมควรแก่เหตุ เพราะถ้าไปทำให้ คน สองคน ไปงุบงิบก็คงจะไม่เป็นธรรม ก็เลยต้องออกมาประกาศ" นายสมัคร กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--